ฝังอีกด้าน!!! “ครอบครัวหัวร้อน”เผยปมโวยตร.! ยันที่ทำเพราะความชุลมุน ฝ่ายแม่อ้างจบนิติศาสตร์ มธ.!!(ชมคลิป)





จากกรณีข่าวครอบครัวโจ๋หัวร้อนที่มาบตาพุด จ.ระยอง มีปากเสียงกับตำรวจจนถึงขั้นทำร้ายร่างกาย นั้น ต่อมาทางผู้เป็นลูกชายเผยว่าตำรวจทำร้ายแม่ก่อน ทั้งบีบคอ ทั้งปิดประตูใส่ จึงบันดาลโทสะ ซัดตำรวจลงคลิปไม่หมด ฝ่ายตนมีคลิปตั้งแต่ต้น แต่ยังไม่ขอเปิดเผย โดยได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาดูหมิ่นเจ้าพนักานแล้ว แต่ผู้เป็นพ่อ และแม่ ต่างปฏิเสธข้อกล่าวหา 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 12 พฤษภาคม 2561 พ.ต.อ. อรรฆพงษ์ สุนทรวิภาค ผกก.สภ.มาบตาพุด เปิดเผยว่า การดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.จราจร ตำรวจ สภ.มาบตาพุด ดำเนินการในทุกข้อหา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รวบรวมพยานหลักฐานจากผู้เห็นเหตุการณ์และในคลิปทั้งหมด เพื่อเอาผิดผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดี เบื้องต้นมี 2 คน ที่เห็นชัดเจน วันนี้จึงให้มารับทราบข้อกล่าวหา โดยพิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติและปล่อยตัว

 พ.ต.อ. อรรฆพงษ์ ระบุว่า ขอให้ประชาชนเห็นใจตำรวจ จะเห็นว่าตำรวจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทนอดกลั้น และยืนยันว่า ร.ต.อ. วิทยา วุฒิพันธ์ รอง สารวัตร (จราจร) ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นตำรวจน้ำดี และได้ทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ด้าน น.ส.หทัยรัตน์ สมถวิล กล่าวว่า ฝ่ายตำรวจมีคลิป ตนก็มีเหมือนกัน ตนยืนยันว่าไม่ได้ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน แต่เป็นเพราะตำรวจมาผลักตนก่อนจึงโมโห อีกทั้งลูกทำไปเพราะปกป้องแม่ ตนเห็นลูกถูกตำรวจล็อกคอ และมีตำรวจอีกนายหนึ่งต่อยไปที่เบ้าตาลูก 3 ครั้ง จนตาปิด แฟนก็โดนต่อยท้องไป 3 ที ด้าน เยาวชนอายุ 18 ปี ผู้เป็นลูกชาย ที่เป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ร.ต.อ. วิทยา เปิดเผยว่า ตนไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายตำรวจแต่อย่างใด ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดจากตำรวจ ใช้มือผลักแม่หลายครั้ง ทั้งที่แม่บอกว่ากำลังท้องแต่ตำรวจยังไม่หยุดทำให้บันดาลโทสะ และเดินเข้าไปต่อว่าตำรวจ จนเกิดการชุลมุน และมือตนได้ไปถูกใบหน้าของ ร.ต.อ.วิทยา ดังกล่าว สำหรับคลิปที่มีการเผยแพร่ว่าครอบครัวตนเคยมีพฤติกรรมทำเลาะกับตำรวจนั้น เป็นเรื่องตั้งแต่ 3 ปีก่อน ตนขอวอนสังคมว่าอย่าตัดสินครอบครัวจากคลิป ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นที่จังหวัดนนทบุรี แต่ครั้งนั้นไม่ได้มีเรื่องกับตำรวจ แต่เป็นเพราะถูกคู่กรณีขับรถยนต์ปาดหน้า และคู่กรณีกับไปแจ้งตำรวจว่า ถูกครอบ ครัวของตนขับรถยนต์ไล่ทำร้ายจากสาเหตุขับรถปาดหน้ากัน แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นไม่มีเหตุการณ์รุนแรง แต่อย่างใด ด้าน นายพะยอม แสงวันดี ผู้เป็นพ่อ ยอมรับว่า ขณะเกิดเหตุครอบครัวตน ใช้คำไม่สุภาพกับตำรวจจริง ส่วนกรณีลูกชายทำร้าย ร.ต.อ. เอกวิทยา นั้น เนื่องจากตำรวจได้ทำร้ายร่างกายแม่ ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ จึงได้เข้าไปช่วยเหลือ แต่เนื่องจากเหตุการณ์ชุลมุน จึงทำให้ลูกชายตนถูกดำเนินคดีข้อหา ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่

ขณะที่ นายยุทธศักดิ์ เนตรเหมือนทิพย์ อาสาจราจร สภ.บางศรีเมือง ผู้อยู่ในเหตุการณ์เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เล่าว่า คลิปดังกล่าวเป็นคลิปเก่าเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2560 ในขณะที่ตนกำลังช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกการจราจร ในซอยท่าอิฐ ก็ได้รับแจ้งว่ามีรถขับปาดหน้ากัน ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปจัดการ ซึ่งตนก็เดินทางไปพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าครอบครัวพ่อ, แม่, ลูกชาย และหญิงวัยรุ่นอีกรายกำลังด่าทอคู่กรณี

จากการสอบถามทราบว่า ครอบครัวดังกล่าว ขับรถกระบะเข้ามาในซอยโดยได้ปาดหน้ารถเก๋งของคู่กรณี เมื่อรถเก๋งบีบแตร ลูกชายซึ่งนั่งท้ายกระบะได้ยกเท้าใส่จนเกิดการถกเถียงกัน ซึ่งทางคู่กรณีได้ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาไกลเกลี่ย โดยทางฝ่ายผู้หญิง ซึ่งเป็นแม่อ้างตัวว่าเรียนจบนิติศาสตร์มา ทราบข้อกฎหมายไม่ยอมให้จับตัว ส่วนคนอื่น ๆ ก็ โวยวายเสียงดัง ข่มขู่คู่กรณี แต่ไม่ได้ด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจ

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามห้ามปราม แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุและโวยวายมากขึ้น จนเจ้าหน้าที่ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย จึงแนะนำให้คู่กรณีไปลงบันทึกประจำวัน และเดินออกมา แต่ฝ่ายครอบครัวดังกล่าวก็เดินตามคู่กรณีมา โดยอ้างว่าคู่กรณีเอามือไขว้หลังคล้ายจะชักปืนออกมา ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามห้ามและกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าข้างคู่กรณี


ชมคลิป

ขอบคุณที่มา : ทุบโต๊ะข่าว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: