กลัวทำไม?! แม่ค้ารถกับข้าวมั่นใจ ‘รถบิ๊กซี’ไม่กระทบ ลั่น’มาก็มา-เราเปลี่ยนแผนการค้าตัวเองได้ตลอด’





 

จากกรณีข่าวฮือฮาสะเทือนวงการค้าปลีก เมื่อ “บิ๊กซี” ออก “รถเร่”วิ่งขายสินค้าตามหมู่บ้าน และถึงแม้จะมีแถลงการณ์ออกมาจากผู้ประกอบการรายใหญ่ระดับชาติมาแล้วว่า เป็นการ “ทอดลองวิ่ง” นำร่องในบางพื้นที่เท่านั้น ถึงกระนั้นหลายฝ่ายก็ได้ออกมาแสดงความเป็นห่วง เกรงกันว่าผู้ประกอบการที่ทำอยู่ก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ค้ารายเล็ก-รายย่อย จะมีอันล้มหายตายจากไป ลักษณะเดียวกันกับร้านโชห่วย ที่ต้องทยอยปิดตัวไปแล้วเป็นจำนวนมาก เนื่องจากการเข้ามาของร้านสะดวกซื้อติดแอร์ แบรนด์ดัง

และล่าสุดทางพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงกับสั่งการให้ทางกระทรวงพาณิชย์ เข้ามาดูแลรายละเอียดข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว พร้อมกับหาแนวทางป้องกันปัญหาการแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมแล้วด้วย

เมื่อวันก่อน “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ออกสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการรถเร่ขายกับข้าว-ของสด หรือที่มักเรียกกันติดปากว่า “รถพุ่มพวง”

เริ่มที่ คุณหนุ่ม – อนันต์  อายุ 41 ปีสละเวลามาให้ข้อมูล พื้นเพเป็นชาวจังหวัดพิษณุโลก ครอบครัวมีอาชีพทำสวน พออายุได้ราว 17-18 ปี เดินทางมาทำงานในกรุงเทพฯ เพราะมีญาติอยู่ก่อน เข้ามาก็ค้าขายไปสารพัด อย่าง หอม กระเทียม พริกแห้ง ข้าวสาร เป็นต้น

ส่วน “รถพุ่มพวง”นี้  ทำมาได้ 22 ปี แล้ว สมัยก่อนคนทำกันน้อย วิ่งไปขายที่ไหนก็ขายได้ เพราะนำของดี ของสด ไปขายให้ถึงหน้าบ้าน

“รถกระบะมีอยู่ก่อน มีคนมาขอซื้อคันละ 5- 6 หมื่นบาท จะไปขายทำไม เอามาดัดแปลงทำรถขายกับข้าวดีกว่า ลงทุนต่อหลังคา ถังสแตนเลส อีกหน่อย ก็วิ่งค้าขายได้แล้ว ค่าน้ำมันตกวันหนึ่งร้อยบาท ที่เหลือเก็บได้หมด มันก็พออยู่ได้”คุณหนุ่ม เล่าให้ฟังอย่างนั้น

ถามไถ่ถึงภารกิจแต่ละวัน คุณหนุ่ม บอก ตื่นนอนตอนตีสี่ ก่อนวิ่งรถเข้าตลาดสี่มุมเมือง จากนั้นจึงวิ่งเร่ขายไปตามทำเลคุ้นเคย คือ แหล่งชุมชนย่านคลองสาม คลองสี่ รังสิต-นครนายก ถึงช่วงบ่ายพักหนึ่งชั่วโมง ก่อนวิ่งรถเข้าตลาดไท ลงของอีกรอบเพื่อวิ่งขายช่วงบ่าย-เย็น

“มีลูกค้าประจำอยู่ในหมู่บ้านหลายโครงการ ตามโรงงาน ก็มี เราขายให้ทั้งเงินสดและเงินเซ็น ที่กล้าให้เซ็นเพราะดูลูกค้าออกว่าเชื่อใจได้  ข้อดีของรถพุ่มพวง คือ มีของสดหมุนเวียนวันต่อวัน ลูกค้าชอบอยู่แล้ว  ไม่ต้องเข้าร้านใหญ่ ไม่ต้องเดินทางไปตลาด  ขอแบ่งซื้อได้ ห้าบาท สิบบาท ก็ขายให้”คุณหนุ่ม อธิบาย

เมื่อถามถึงกรณี “บิ๊กซี”มีแนวคิดจะออกรถเร่ลักษณะเดียวกันกับ “รถพุ่มพวง”ที่เขาทำอยู่นี้ คุณหนุ่ม บอกยิ้มๆ

“ไม่ซีเรียสเลย มาก็มา เพราะเราต้องเปลี่ยนแผนการค้าตัวเองได้ตลอดเวลา  ไม่อยู่นิ่ง  ไม่ขายของซ้ำซาก ในการไปเจอลูกค้าแต่ละวัน ต้องหาของดีๆ ที่ไม่ใช่หาซื้อที่ไหนก็ได้ ยอมรับว่า บิ๊กซี มาใหม่ๆ อาจขายได้ ลูกค้าอาจมาลอง แต่ถ้าจะให้เป็นลูกค้าประจำกันบอกเลยเจาะยากนะ อยู่ที่ว่าคุณมีสินค้าถูกใจลูกค้าหรือเปล่า คุณมีของบางอย่างเหมือนผมมั๊ย ข้าวต้มมัดอร่อยๆ พริกแกงหอมๆ ที่แหล่งผลิตดีๆมั๊ย ถ้ามีก็สู้กันหน่อย”

แสดงว่าไม่กลัวจะถูกแย่งฐานลูกค้าไป พ่อค้าท่านเดิม บอกสวนทันควันว่า  ไม่กลัว กลัวทำไม กลัวเพื่ออะไร ตลาดเกิดขึ้นมากมาย ทำไมเรายังขายได้ กว่าจะมีลูกค้าไม่ง่ายนะ บิ๊กซี มาแรกๆ อาจขายได้แน่นอน  แต่นานวัน ตนไม่แน่ใจ เพราะทุกวันนี้ ตลาดใหม่ๆเกิดขึ้นมากมายอย่างกับดอกเห็ดอยู่แล้ว

“รถเร่ ต้องมีสินค้าไม่ซ้ำซาก พลิกแพลงตลอด เพื่อให้ลูกค้าตื่นเต้น และถ้าสินค้าเราดีซะอย่าง ก็ไม่ต้องกลัวอะไร คนที่จะกลัวคือคนที่มีสินค้าไม่ดีมากกว่า  ผมทำการค้าไม่เก่งหรอก แต่มีบ้านเงินสด รถเงินสดได้ ก็จากธุรกิจรถเร่นี่แหละครับ”คุณหนุ่ม บอกอย่างนั้น

ด้านลุงไสว กับ ป้าทองแดง สองสามีภรรยาวัยกว่าหกสิบ เจ้าของกิจการ “รถพุ่มพวง” ที่ตระเวนวิ่งตามหมู่บ้านย่านคลองหนึ่ง,คลองสอง รังสิต-นครนายก ให้ข้อมูลว่า พื้นเพเป็นจังหวัดกำแพงเพชร  ขายของรถเร่มาได้ 26 ปีแล้ว โดยเมื่อก่อนนี้ ทำไร่-ทำนา อยู่ที่บ้านเกิด

เมื่อถามว่า ทำไร่-ทำนา ไม่ดีหรือ  ลุงไสว หัวเราลั่น ก่อนตอบเสียงดังฟังชัด

“โอ๊ย! ทำไร่ทำนาจะดียังไงเล่า ข้าวราคาอย่างนี้ เลยตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯมาค้าขายนี่แหละ”

ก่อนเล่าต่อ มีน้องชาย ค้าขายอยู่ก่อน เลยชักชวนมา ช่วงนั้นมีโครงการก่อสร้างเยอะ  เราก็ทำรถไปวิ่งขายถึงไซต์งาน ลงทุนธุรกิจนี้ไม่เยอะ เพราะรถกระบะมีอยู่แล้ว  ต่อแค่หลังคาส่วนอื่นๆก็ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป

ถามไถ่ถึงภารกิจประจำวัน ลุงไสว เล่า ตื่นนอนตอนตีหนึ่งก่อนวิ่งรถไปตลาดรังสิต เพื่อเลือกซื้อของขึ้นรถ ก่อนนำมามัดเป็นถุงๆห้อยให้รอบคัน พอเวลาบอกตีสี่ จึงวิ่งรถออกจากตลาด วิ่งเร่ไปตามทำเลคุ้นเคย ตั้งต้นที่คลองสี่ ราวเจ็ดโมงเช้ามาจอดหน้าหมู่บ้านแถวคลองสาม พอสายหน่อยก็ออกวิ่งตามหมู่บ้าน ราวเที่ยงวัน จึงกลับเข้าบ้านพักผ่อน

ถามถึงอุปสรรคปัญหาในการทำมาหากิน ลุงไสว บอก ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร  ส่วนเรื่องฟ้าฝนนั้นมีบ้าง ถ้าฝนตกเช้าก็ไม่ดี ลูกค้าหายหมด  ฝนตกไม่มีใครออกมาซื้อ ถ้าวันไหนของเหลือส่วนน้อยก็เก็บไว้กินเอง แต่ถ้าเหลือเยอะ เปลี่ยนคืนได้หมด ทั้ง ไก่ หมู ไข่เน่า ขนมจีนเน่า เปลี่ยนได้หมด

เมื่อถามถึงกรณี “บิ๊กซี” ลุงไสว บอกยิ้มๆ

“ได้ยินมาเหมือนกัน แต่ไม่กลัวจ๊ะ คนหากินเหมือนกัน  ผมว่าผมสู้ได้นะ หการค้าขายเทคนิคต้องมี เราขายไม่แพง ใครก็ต้องซื้อ กะปิ ปลาร้า พริกแกง เรามีครบสูตร ไม่ต้องกลัว”

ข่าวจาก : เส้นทางเศรษฐีออนไลน์

 

ลุงไสว เจ้าของกิจการ “รถพุ่มพวง”

 

ป้าทองแดง ยิ้มสู้อากาศร้อน

 

 

 

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: