รีวิวสร้างบ้านชั้นเดียวในฝัน เป็นของขวัญเซอร์ไพรส์พ่อกับแม่…ตั้งแต่ซื้อที่ดินจนเป็นบ้านสไตล์อิงลิชการ์เดน(ภาพชุด)





 

 

บ้านในฝัน ที่ได้มาอย่างไม่คาดฝัน โดย คุณ pulsedownfoot

         หลายคนบอกว่าทุกสิ่งอย่างล้วนมี "เจ้าของ" และมักจะถูกกำหนดเอาไว้แล้วว่าควรจะเป็นของใคร รอแค่เวลา เราก็ไม่เคยเข้าใจคำพูดนี้นะ จนเมื่อ 3 ปีก่อนจากการเดินทางไปเชียงใหม่ครั้งแรกในชีวิต มันไม่ใช่แค่การเดินทางไปเที่ยว แต่มันคือการเดินทางไป "สร้างบ้านในฝัน" แบบไม่คาดฝัน  หลังจากที่ผ่านวิกฤตมาเยอะ ทั้งบ้านไฟไหม้ แฟนทิ้ง ยุ่งแต่กับงาน จนสร้างบ้านให้พ่อกับแม่สำเร็จแล้ว ก็นึกอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง คิดแต่ไม่รู้จะหาซื้อที่ดินที่ไหนหรือจะเริ่มต้นยังไงดี จนบังเอิญได้ไปเจอเพื่อนรุ่นพี่ที่ทำงานคนหนึ่ง ก็คุยกันเล่น ๆ เรื่องที่ดินและเรื่องบ้าน ก็ได้กลายเป็นที่มาของบทเริ่มต้นการสร้างบ้านทั้งหมดจากนี้ 

         ความบังเอิญที่ 1 : มีพี่เขาซื้อที่ดินที่หนึ่งในเชียงใหม่ไว้และกำลังสร้างบ้านอยู่ เขาก็ให้เราดูรูปถ่ายที่ดินโครงการจัดสรรผืนหนึ่งตรงข้ามที่ดินที่พี่เขากำลังสร้างบ้าน พอเราเห็นปุ๊บก็บอกพี่เขาว่า หนูอยากได้และตัดสินใจซื้อทันที ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นยังไม่มีเงินเลยและประเด็นสำคัญคือเห็นแค่รูป ฮ่า ๆ ๆ แต่ใจมันบอกว่านี่ล่ะที่ดินในฝันของเรา
 

 

 

       ความบังเอิญที่ 2 : หลังจากเห็นรูป ใจมันก็กระวนกระวายเพราะอยากได้ กลัวจะมีคนมาแย่ง เราเลยบอกรุ่นพี่ว่าให้โทร. บอกเจ้าของที่เลยว่าจะซื้อ บังเอิญว่า เจ้าของที่จะเดินทางมากรุงเทพฯ พอดี เราเลยไม่ต้องขึ้นไปเชียงใหม่ แถมตรงกับช่วงเราหยุดงานด้วย ตอนนั้นก็แอบกลัวว่าไว้ใจได้ไหม จะโดนหลอกหรือเปล่า ที่ดินของจริงก็ไม่เคยเห็น อาศัยดูจากรูปไม่กี่รูป แต่เขามีเอกสาร โฉนด ทุกอย่างมาพร้อม เราก็แอบพิจารณาหลาย ๆ อย่างระหว่างคุยกัน และมีอะไรหลายอย่างในใจบอกว่าผู้ใหญ่ท่านนี้ ไม่ใช่คนที่จะมาหลอกเอาเงินเพียงแค่ไม่กี่บาทกับเราแน่นอน แต่ ณ จุดนี้กลับเป็นเจ้าของที่อาจคิดหนักมากกว่า เพราะตอนนั้นเรามีเงินทั้งเนื้อทั้งตัวแค่ 300,000 บาท

        เราบอกขอมัดจำ 600,000 ก่อนได้หรือไม่ ขอเวลา 1 เดือนจะหามาให้ ส่วนที่เหลือจากนั้นจะทำเรื่องกู้ แต่คงใช้เวลาสักหน่อย ขอเจ้าของที่ช่วยให้โอกาส รอนิดนึง เจ้าของที่ก็ดูเหมือนจะแอบเซ็ง แต่เขาบอกว่าเห็นแก่ความตั้งใจจริงและเพราะต้องการจะเซอร์ไพรส์พ่อกับแม่ ต่อรองไป-มาเจ้าของเลยบอกว่าโอเค ให้เวลา (ถ้าจำไม่ผิด) 2 เดือน เอาล่ะสิ…แล้วจะไปทำเรื่องกู้กับใครที่ไหน 

        ความบังเอิญที่ 3 : เจ้าของที่บอกเขาเป็นนายธนาคารเก่า ถามเราว่าไปทำสัญญาวางเงินมัดจำกันเลยวันนี้สะดวกไหม เพราะจะได้มีพยานรับรู้ อีกอย่างเขาจะได้ไปเยี่ยมเยียนลูกน้องเก่า ๆ ด้วย ตอนนั้นเราก็กลัว ๆ แต่การไปทำสัญญาครั้งนั้น ก็เหมือนได้เป็น VIP ขึ้นไปชั้นบนสุดของธนาคาร ซึ่งทำให้เราได้พบกับผู้ที่ต่อมากลายมาเป็นผู้ดำเนินการจัดการเรื่องเอกสารการกู้ยืมทั้งหมด ซึ่งพี่ท่านนี้เขานับถือเจ้าของที่อยู่แล้ว เนื่องจากเป็นเจ้านายเก่า เลยเต็มใจช่วยดูแลเราอย่างดี และเป็นพี่ที่เรานับถือจนปัจจุบัน เขาช่วยเหลือเราด้วยน้ำใจไมตรีในหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งบางเรื่องถ้าไม่ได้เขา เราคงไม่สามารถทำบ้านในฝันหลังนี้ให้เป็นจริงได้ (เป็นไงคะบังเอิญไปหมด) แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เพราะปรากฏว่าธนาคารไม่มีนโยบายให้กู้ซื้อที่ดินเปล่า ๆ เราต้องสร้างบ้านเท่านั้นถึงจะพิจารณา !!!

        ขั้นตอนต่อไปคือแบบบ้านและผู้รับเหมา เราไม่รู้จะไปหาที่ไหนและจะเริ่มต้นตรงไหน เอกสารประกอบการกู้ยืมอีก ฯลฯ ตอนแรกกะจะใช้ช่างของรุ่นพี่ที่ทำงานที่เขาใช้บริการอยู่ แต่ช่างรับเหมาประเมินไว้อยู่ที่ 3.5 ล้านบาท โดยประเมินคร่าว ๆ ไว้ว่าถ้าบ้านลักษณะคล้าย ๆ แบบนี้ พื้นที่ใช้สอยเท่านี้ จะราคาสักเท่าไร เราก็เลยคุยกับเพื่อนสนิทที่เป็นคนเชียงใหม่แต่อยู่ญี่ปุ่น เขาบอกว่าจะลองให้พี่เขยช่วยแนะนำคนรู้จักให้ แต่ก็ 3.5 ล้านบาทกว่า ๆ เช่นกัน ไหนจะความกังวลเกี่ยวกับผู้รับเหมาและเวลาอีก ไป ๆ มา ๆ พี่เขยเพื่อนก็ตัดสินใจรับเหมาทำให้เองเลย 

        ความบังเอิญที่ 4 : พี่เขาเป็นวิศวกรมือดีในเชียงใหม่ ปกติจะคุมก่อสร้างงานใหญ่ ๆ ตั้งแต่อพาร์ตเมนต์ยันโรงพยาบาล เพราะฉะนั้นแบบบ้านในฝันของเราจึงสำเร็จไวมาก เราขึ้นไปรับแบบที่เชียงใหม่ เอามายื่นให้ธนาคาร มีแบบบ้าน งานไฟ งานประปา ฯลฯ มีรายเซ็นวิศวกรและใบประเมินราคาพร้อม

        แต่บอกตรง ๆ ว่าตอนนั้นเครียดมาก เพราะทำทุกอย่างเองหมดเลย ไม่ได้บอกใคร ปิดทุกคน เป็นคนตัดสินใจทำอะไรไวมาก ไม่ได้ปรึกษาใครเลย เพราะต้องการจะเซอร์ไพรส์พ่อ-แม่ แต่โชคดีที่เรื่องเอกสารราบรื่นทุกอย่าง เจ้าหน้าที่ธนาคารลูกน้องเก่าเจ้าของที่ช่วยจัดการเป็นธุระให้หมด เรามีหน้าที่แค่เข้าไปเซ็นเอกสาร และหาเอกสารมาให้ตามที่จำเป็นเท่านั้น ใช้เวลาดำเนินการกู้ทั้งหมด 4 เดือน ตกลงทำสัญญากู้เพื่อซื้อที่ดินและปลูกสร้างที่อยู่อาศัยพร้อมกันไปเลย โดยธนาคารแบ่งจ่ายเป็นงวด ๆ โดยระหว่างที่รอกู้เราก็แบ่งผ่อนจ่ายให้เขาเดือนละ 25,000 บาทจนถึงวันไปทำเรื่องโอนที่ดินที่อำเภอ เขาก็ยังจัดการรับผิดชอบค่าธรรมเนียมทุกอย่างจำนวนหลายหมื่นบาทแทนเราหมดอีกต่างหาก

        จากที่ร้อยวันพันปีไม่เคยไปเชียงใหม่ แต่นับจากนี้จะต้องขึ้นไปทุกเดือน ตอนแรกก็กังวลว่าเราไม่ได้อยู่ที่นั่น แล้วใครจะดูแลการก่อสร้างให้ แต่พอได้พี่เขยเพื่อนมาดูแล เราก็หมดห่วงไปเลยค่ะ เพราะถึงต่อให้เราไม่อยู่ เขาก็ไม่ทิ้งงานเรา ดูแลจัดการคุมงานให้ประหนึ่งทำบ้านของตัวเอง นี่คืออีกหนึ่งเรื่องที่เราโชคดีสำหรับการทำบ้านหลังนี้ และเราก็มีส่วนร่วมดูแลก่อสร้างตั้งแต่เริ่มต้น เหมือนได้เรียนรู้ขั้นตอนการสร้างบ้านไปในตัว จากที่ไม่รู้อะไรเลย และไม่คิดว่าจะมีวันที่จะได้รู้ สนุกมาก ๆ ตามไปดูกันเลยค่ะ

 

 

– ที่ดินบ้านเราหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้นิด ๆ ซึ่งตามฮวงจุ้ยถือว่าเป็นทิศที่ดีใน 20 ปีข้างหน้านี้เลย อิอิ

 

 

– ทำการทดสอบลักษณะดินก่อนทำการปลูกสร้าง เพื่อประเมินว่าควรจะวางรากฐานแน่นหนาขนาดไหนดี

 

 

– ได้เวลาวางผังบ้านกันแล้ว

 

 

– มีส่วนร่วมด้วยนะเจ้าของบ้านอะ ไม่ใช่มายืนเฉย ๆ เราคอยช่วยฉีดสีตามเสาและผูกเชือกเพื่อทำสัญลักษณ์ค่ะ 

 

 

 – ก่อปูนเอาไปเทบนเสาเพื่อเป็นสัญลักษณ์สำหรับคนที่จะมาลงเสาเข็มอาทิตย์หน้า

 

 

 

 – ต่อมาก็ลงเสาเข็มค่ะ ไวมาก ๆ

 

 

– หลังจากงานเสาเข็มเสร็จ ช่างเซตต่อไปก็ทำการขุดหลุมเสา เพื่อรอการลงเสาและเทปูน

 

 

– ช่างเตรียมดัดเหล็กเพื่อทำเสา

 

 

– ช่างใหญ่ตรวจคุณภาพงานดัดเหล็กว่าผ่านหรือไม่

 

 

– พี่เขยเพื่อนช่างใหญ่ฝีมือดี กำลังสอนคนงานวิธีการมัดเหล็กทำเสา

 

 

– ช่างได้ทำการงอเหล็กและผูกเหล็ก วิธีการมัดเหล็กแบบนี้ช่วยกันแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้

 

 

 

 

– เมื่อมาถึงตอนนี้เราจะไม่บอกพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ เพราะต้องลงเสาเอก เอาฤกษ์เอาชัย เราอยากได้สิริมงคล และความร่มเย็นให้กับบ้านของเรา เลยตัดสินใจว่าต้องบอกพ่อกับแม่ เพื่อให้ท่านขึ้นมาร่วมกันทำพิธีลงเสาเอกให้

 

 

– เทคอนกรีตเสาเอกกับเสาโทก่อน 

 

 

– มีเครื่องจี้ด้วย รับรองคอนกรีตอัดแน่น !

 

 

– ขึ้นเสาที่เหลือเรียบร้อยแล้ว รอเทปูนค่ะ
 

 

 

– เริ่มก่อแบบทำตอม่อ

 

 

– ต้องคำนวณระดับความสูงของตอม่อแต่ละต้น เนื่องจากตัวบ้านมีการเล่นระดับและพื้นดินมีสูง-ต่ำ จึงต้องคำนวณเยอะหน่อย และมีการ "วัดดิ่ง" เพื่อดูว่าเสาตั้งตรงได้ระดับตั้งฉากกับพื้นหรือไม่ จากนั้นก็เริ่มเทปูนทั้งหมด 34 ต้น เสร็จภายใน 2 ชั่วโมง ช่างเราเก่งและขยันที่ซู้ด

 

 

– ผ่านไป 2 วัน แกะแบบตอม่อแล้วสวยงาม ไม่มีรอยร้าวหรือเหล็กโผล่

 

 

– ต่อมาก็เริ่มดัดเหล็กสำหรับทำคานกันแล้ว ความพิเศษของเหล็กคานนี้คือ เป็นการดัดแบบหูกระต่าย สามารถรับแรงสั่นสะเทือนเมื่อเกิดแผ่นดินไหวได้

 

 

– คานและพื้นห้องน้ำพร้อมภายในสัปดาห์เดียว ตอนนี้ก็แค่รอคอนกรีตสำเร็จรูปมาส่ง เพื่อหล่อตามแบบ แค่นี้งานคานก็เรียบร้อยค่ะ

 

 

– หลังจากเทคอนกรีตแบบคานไปแล้ว วันต่อมาก็ทำการแกะแบบได้คานสวยงาม

 

 

 

– ระหว่างรอแผ่นพื้นมาส่ง ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดไป 3 วัน ช่างก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียไปเปล่า ๆ เริ่มทำงานเสากันก่อนเลย
 

 

 

 – พร้อมเทปูนแล้วค่ะ

 

 

– ระหว่างที่รอแผ่นพื้น อีกอย่างที่เราทำคือ จ้างบริษัทกำจัดปลวกมาวางท่อน้ำยาค่ะ วางมันที่เสาคานรอบ ๆ บ้านเลย

 

 

 

– แผ่นพื้นมาถึงสักที พอวางแผ่นพื้นเสร็จ ช่างก็เริ่มวางโครงเหล็ก และก่อแบบเพื่อเทคอนกรีตทับแผ่นพื้นต่อไป แผ่นเหล็กที่ใช้วางบนแผ่นพื้นที่เราใช้ เป็นแบบมี "ข้ออ้อย" ค่ะ 

 

 

 

– เริ่มเทปูนได้ ข้อดีของการใช้คอนกรีตสำเร็จรูปคือไว ประหยัดเวลา และได้มาตรฐานทั่วถึงกัน 

 

 

 

  – ขั้นต่อไปคือก่อแบบคาน เทคอนกรีตคานและพื้นห้องใต้หลังคา

 

 

 

 

– งานบันไดค่ะ ทั้งบันไดทางขึ้นบ้านและบันไดขึ้นชั้นลอย

 

 

– งานวางวงกบประตูและหน้าต่าง

 

 

 

 

 

 

– งานโครงสร้างหลังคาทำควบคู่กันไปกับงานติดวงกบ 

 

 

– ระหว่างนั้นงานวางท่อสายไฟก็เริ่มแล้วเช่นกัน เพราะงานฉาบกำลังจะเริ่มเร็ว ๆ นี้ 

 

 

– งานฉาบปูนก็เริ่มไปด้วย เพราะช่างคนละชุดกัน ทุกอย่างเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วค่ะ จากนี้ต่อไปก็เป็นงานยิบย่อย ทั้งงานทำฝ้า งานติดตั้งหน้าต่าง-ประตู ทาสี งานกระเบื้อง เลือกสุขภัณฑ์ เดินสายไฟ เดินท่อประปา ท่อระบายน้ำ ฯลฯ

 

 

– งานติดฝ้า

 

 

 – งานเดินท่อประปา เดินยาวใต้ถุนบ้านทั้งหมด 
 

 

 

– เทพื้นใต้ถุนให้เรียบร้อยส่วนหนึ่ง จะได้เอาไว้เก็บของได้

 

 

– ติดหม้อทำน้ำร้อนตัวใหญ่เป็นส่วนกลางสำหรับห้องน้ำทั้ง 2 ห้องเลย ตัดปัญหาน้ำร้อนไม่สะใจ ทำเหมือนห้องน้ำโรงแรม

 

 

– บานหน้าต่างบ้านเราเป็นไม้ทั้งหมด ช่างได้ทำการพ่นสีและเก็บรายละเอียดงาน ก่อนทำการติดตั้ง

 

 

 

– งานกระเบื้องสำหรับห้องนอน ห้องโถง และระเบียงบ้าน เราเลือกกระเบื้องลายไม้สีอ่อนทั้งหมด ยกเว้นห้องครัวและห้องน้ำ
 

 

 

– งานทำห้องครัว เราเลือกแบบก่อปูนและอยากมีโต๊ะกลางห้องครัวแบบฝรั่ง เลยให้ช่างก่อให้เลยด้วย 1 ตัว

 

 

 

– งานพื้นบันไดและงานติดตั้งราวบันได

 

 

 – ห้องใต้หลังคา

 

 

 

 

 

– เลือกสีทาบ้าน แต่ละห้องเราเลือกสีไม่เหมือนกัน ตอนแรกจะเอาสีขาวทั้งหลัง แต่คิดว่ามันจะดูน่าเบื่อเกินไป เพราะเฟอร์นิเจอร์เราก็ตั้งใจว่าจะเน้นสีขาว หรือโทนอ่อน ๆ อยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจทำหลาย ๆ สีดีกว่า ห้องละสีไปเลย
 

 

 

 

 

  – งานเดินรางน้ำรอบบ้าน

 

 

– กระเบื้องมุงหลังคาเหลือ พี่เขยเพื่อนเลยเสนอทำหลังคาให้ตรงที่วางแท็งก์น้ำ ออกมาสวยงามมาก ๆ ค่ะ

 

 

– ถึงตรงนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ งานโดยรวมเสร็จแล้ว ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 6 เดือนในการก่อสร้าง ตั้งแต่มีนาคม-ตุลาคม ปี 2556 

 

 

– ตอนแรกเราตั้งใจแค่จะซื้อที่เก็บไว้ก่อน แต่เพราะเงินไม่พอเลยต้องทำเรื่องกู้ และเนื่องจากการกู้บังคับว่าต้องเป็นการกู้เพื่อปลูกสร้างก็ต้องเลยตามเลยไปค่ะ 6 เดือนหลังจากที่บ้านสร้างเสร็จ เราก็ไม่ได้ขึ้นไปอยู่นะคะ แต่เราทำบุญขึ้นบ้านใหม่ทันที ซึ่งถือว่าฤกษ์ดีมาก ตรงกับเดือนเกิดเดือนมกราคมพอดี รับปีใหม่ บ้านใหม่ สิ่งใหม่ ๆ บ้านของเราแบบมีเล่นไฟบนหลังคาไว้ด้วย เวลาขับรถมาจากไกล ๆ จะเห็นหลังคาบ้าน ชอบมากเลยค่ะ

 

 

– ระเบียงบ้านในฝันของเรา

 

 

 – ห้องโถงและชั้นลอยค่ะ บ้านเราจะโปร่งมาก ๆ เพดานสูง และทำฝ้าแบบยึดแนวตามรูปหลังคา ทำให้บ้านยิ่งดูโปร่งค่ะ อากาศในบ้านไม่เคยร้อนเลย เดินเข้ามาในบ้านขอแค่พัดลมตัวเดียวเอาอยู่
 

 

 

– ไฟในบ้านเราใช้ของ Lamptitude เกือบทั้งหมดและก็ดูจากโฮมโปรค่ะ 
 

 

 

– ส่วนนอกบ้าน เนื่องจากงบหมด เลยไม่ได้ทำอะไรเลย ปล่อยทิ้งรกร้าง ให้คนมาตัดหญ้าบ้าง และรั้วก็เป็นรั้วไม้ไผ่กั้นไว้แบบลวก ๆ ค่ะ

 

 

 

 

– นี่เป็นรูปห้องนอนทั้ง 3 สีของเราค่ะ สีชมพู-ม่วงของเราเอง สีเขียวของพ่อกับแม่ และสีน้ำเงินห้องนอนสำหรับแขก 

 

 

– ห้องน้ำจริง ๆ มี 3 ห้องค่ะ แต่อีกห้องหารูปไม่เจอ เป็นห้องสุขาอย่างเดียว 1 ห้องสำหรับส่วนกลาง อีก 2 ห้องจะเป็นห้องอาบน้ำและสุขาในตัว ในห้องนอนเรากับพ่อ-แม่ ห้องสุขาห้องนี้นี่สีและดีไซน์ถูกใจเรามาก

 

 

– นี่ของห้องพ่อกับแม่ เน้นกระเบื้องแบบไม่ลื่นค่ะ

 

 

 

 

 

 

        พอมีสวน บ้านก็เริ่มสวยมีชีวิตชีวา เราก็เริ่มติดลม ขึ้นไปเชียงใหม่แทบจะทุก 2 สัปดาห์ ขึ้นไปก็มีอะไรให้ทำเยอะแยะ มีความสุข นี่ก็ขึ้นไปโกยกรวดใส่ถุงกระสอบ เกลี่ยทางเดิน ทำเองคนเดียว และที่สำคัญขึ้นไปแต่ละครั้งก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลง ผลไม้ ต้นไม้ ดอกไม้ต่าง ๆ ที่พ่อกับแม่ลงไว้ให้ ก็ออกดอกออกผลงามมาก ๆ เลยค่ะ 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ pulsedownfoot สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: