จบดราม่า!! เมียหนุ่มป่วยมะเร็งเบ้าตายอมคืนเงินให้ผัว โอนเงินบริจาคที่ยังเหลือในบัญชี6ล้านไปรักษาตัว(มีคลิป)





 

อดีตเมียหนุ่มมะเร็งเบ้าตายอมยกธง ส่งทนายขอยอมความกับฝ่ายสามี ยอมโอนเงินที่เหลือในบัญชีทั้งหมดรวมกว่า 6 ล้านบาท ด้านน้องมอส หนุ่มป่วยมะเร็ง ชี้ใจจริงอยากดำเนินคดีสั่งสอนครอบครัวภรรยาที่โลภมาก แต่เห็นแก่ครอบครัวและเสียเวลา ไม่ขอทวงเงินที่ภรรยาผลาญไปกว่า 3.2 ล้านบาท พร้อมยกรถยนต์ที่ซื้อจากเงินบริจาคให้ลูกสาวที่อยู่ในความดูแลของอดีตภรรยา

จากกรณีนายประเสริฐ คำมุงคุณ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 2 บ้านโสกแมว ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ร้องเรียนผ่านสื่อว่า ลูกชายคือนายเดชฤทธิ์ หรือน้องมอส คำมุงคุณ อายุ 25 ปี ป่วยโรคมะเร็งในโพรงจมูก ต่อมาประมาณวันที่ 26 ก.ค. 59 บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดงชื่อดัง เดินทางไปเยี่ยมถึงบ้าน พร้อมนำเรื่องราวความทุกข์เผยแพร่ทางโทรทัศน์และสื่อสิ่งพิมพ์ จนมีผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือจำนวนมาก แต่ด้วยความโลภบังตาถูกอดีตภรรยานอกสมรสของผู้ป่วยคือ น.ส.พัชรีพร สุวรรณพรม หรือน้องป๊อบปี้ อายุ 22 ปี หอบเงินบริจาคเกือบ 10 ล้านบาทหนีไปอยู่บ้านพ่อแม่โดยไม่ยอมมาเหลียวแล

ทั้งนำเงินดังกล่าวไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ของผู้ใจบุญทั่วประเทศ จึงแต่งตั้งทนายยื่นฟ้องครอบครัวของ น.ส.พัชรีพร ต่อศาลจังหวัดนครพนม ความอาญานัดแรกวันที่ 22 ม.ค. ส่วนความแพ่งวันที่ 29 ม.ค. 61 นี้ ภายหลังทางครอบครัวของผู้ถูกกล่าวหาโต้ว่ามีเงินบริจาคเพียง 7,000,000 กว่าบาทเท่านั้น พร้อมประกาศจะแจ้งความดำเนินคดีผู้ให้ข่าวให้ถึงที่สุด แต่ทางครอบครัว “คำมุงคุณ” ยันไม่ได้ใส่ร้ายครอบครัวอดีตลูกสะใภ้ งัดหลักฐานการแสดงรายการบัญชีเงินเข้า-ออก ธนาคารออมสิน สาขาธาตุพนม ซึ่งมียอดอยู่ที่ 9 ล้านบาทเศษ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุด (22 ม.ค. 61) ที่ศาลจังหวัดนครพนม ศาลได้นัดจำเลยทั้ง 3 คน ประกอบด้วย น.ส.พัชรีพร สุวรรณพรม หรือน้องป๊อปปี้ อายุ 22 ปี, นายประดิษฐ์ สุวรรณพรม อายุ 40 ปี (พ่อ) และนางทองม้วน สุวรรณพรม อายุ 39 ปี (แม่) มารายงานตัวในคดีอาญา 3079/60 ร่วมกันข้อหายักยอกทรัพย์ โดยนายเดชฤทธิ์ หรือน้องมอส เดินทางมาพร้อมกับนายประเสริฐ และญาติ มีนายธวัชชัย ศิริวงศ์ จากสำนักงานเสรี ไชยกิตติ จ.นครราชสีมา เป็นทนายความ

ก่อนที่ศาลจะออกนั่งบัลลังก์ ทนายความ น.ส.พัชรีพรขอเจรจายอมความกับฝ่ายโจทก์ อ้างว่าลูกความยินดีจะคืนเงินที่เหลือในธนาคารออมสิน สาขาธาตุพนม ประมาณ 5,800,000 บาท และบัญชีของธนาคารกรุงไทย สาขาธาตุพนม จำนวน 230,000 บาท รวม 2 บัญชีแก่นายเดชฤทธิ์ทั้งหมด ซึ่งนายประเสริฐได้สอบถามลูกชายว่าจะตัดสินใจอย่างไร 

นายเดชฤทธิ์เห็นว่าอดีตภรรยา หากจะดำเนินคดีต่อก็อาจจะทำให้เสียเวลา ใจจริงอยากจะสั่งสอนครอบครัวนี้ถึงความละโมบโลภมาก ประกอบกับตนเองต้องการเงินไปรักษาตัว จึงแถลงต่อศาลว่า เงินที่ครอบครัวอดีตภรรยานำไปใช้ประมาณ 3,200,000 บาท ไม่ขอทวงคืน พร้อมยกรถยนต์คันที่ซื้อจากเงินบริจาคให้แก่ลูกสาววัย 5 ขวบ ที่อยู่ในความดูแลของอดีตภรรยา

จากนั้น น.ส.พัชรีพรพร้อมทนายความเดินทางไปยังธนาคารออมสิน สาขาธาตุพนม เพื่อโอนเงินทั้งหมดเข้าสมุดบัญชีธนาคารออมสินสาขาเดียวกันของนายประเสริฐ มีนายธวัฒน์ โภคะสุนทรางกูล ผู้จัดการธนาคารออมสิน ได้เชิญคู่กรณีทั้งสองฝ่ายสอบถามรายละเอียด และดำเนินการโอนเงินให้เป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่จะไปถอนเงินสดจากธนาคารกรุงไทย ซึ่งต้องมีผู้ร่วมเซ็นถอนจำนวน 3 คน คือนายเผย คำมุงคุณ นายก อบต.อุ่มเหม้า, นายประเสริฐ คำมุงคุณ และ น.ส.พัชรีพร สุวรรณพรม จากนั้นก็นำหลักฐานต่างๆ ไปยื่นต่อศาลจังหวัดนครพนม เพื่อขอถอนฟ้องจำเลยทั้งสาม

นายเดชฤทธิ์ หรือน้องมอส เปิดเผยว่า เงินบริจาคทั้งหมดนี้ตนจะใช้จ่ายเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กรุงเทพฯ ตามแพทย์นัด ซึ่งวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมาเพิ่งไปเอกซเรย์ร่างกายโดยยืมเงินจากญาติไปก่อน แต่ตนมีบัตรผู้พิการ ค่ารักษาเป็นเงิน 9,000 บาท ทางโรงพยาบาลไม่ได้เรียกเก็บแม้แต่บาทเดียว จะจ่ายเพียงค่าน้ำมันรถไป-กลับเท่านั้น ขอขอบคุณผู้ใจบุญทั่วประเทศที่ส่งกำลังใจไปให้ เงินบริจาคกว่า 9 ล้านบาทที่โอนเข้าบัญชีอดีตภรรยานั้นใช้เวลาถึง 17 เดือนตนถึงได้จับเงินจำนวนดังกล่าว รวมสองบัญชีมีเงินคงเหลือ 6 ล้านบาท 

“หากไม่ฟ้องก็คงไม่คืนให้ผมหรอกครับ” น้องมอสกล่าวทิ้งท้าย

ข่าวจาก : ผู้จัดการออนไลน์

 

 

 

 

 

 

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: