กว่าจะเป็น ‘ข้าราชการครู’ ไม่ง่ายเลย…เปิดประสบการณ์เส้นทางการสอบครู เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย





 

เรื่องโดย : ttno1 
เว็บไซต์ : https://pantip.com/topic/35658116

กระทู้นี้ไม่ใช่กระทู้ขอความคิดเห็น ไม่ต้องแสดงความคิดเห็นก็ได้ อ่านผ่านๆสนุกๆก็พอยิ้ม

ช่วงนี้กระทู้ข้าราชการครูเยอะ อาจจะเพราะเป็นช่วงประกาศผลสอบบรรจุ ข่าวสอบราชการอื่นๆ ก็โดนข่าวบรรจุครูเต็มไปหมด ก็ดีใจสำหรับคนที่ได้บรรจุนะครับ ท่านได้ถึงฝั่งฝันแล้ว สำหรับคนที่ขึ้นบัญชีก็รอลุ้น ปีนี้น่าจะเรียกเยอะ เพราะนโยบายเขากำหนดมาแบบนั้น ส่วนคนที่ยังสอบไม่ผ่านก็สู้ต่อไป

แน่นอนว่าเมื่อข่าวบรรจุครูมันเต็มพรึบยึดหัวหาดข่าวสอบราชการอื่นแบบนี้ มันย่อมดึงดูดใจบุคคลทั่วไป และมันก็ดูได้จากกระทู้ที่มีมาตลอดที่ถามถึงวิธีการเป็นครู การสอบบรรจุ และอะไรต่อมิอะไรมากมายที่ถามกันมาโดยเฉพาะคนที่ไม่ได้จบครูแล้วอยากเป็นครู 

การที่เราอยากเป็นข้าราชการครู อยากมีความมั่นคงในชีวิตมันไม่ผิดหรอกครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้เรียนครู แต่ปัจจุบันก็รับราชการครูอยู่ ผมก็พยายามช่วยชี้แนะแนวทาง บอกหนทางที่จะพาคนเหล่านั้นถึงฝัน เพราะผมเข้าใจความรู้สึกของพวกเขานะ หลายกระทู้ที่ผมตอบแบบหักดิบ ดูไร้น้ำใจ ถ้าคุณอ่านกระทู้นี้จบ หวังว่าคุณจะเข้าใจผมมากขึ้น

มีหลายอย่างที่ผมไม่ได้บอกเพราะไม่มีใครถาม ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ถาม แต่คาดว่าเพราะเขาไม่อยากรู้ หรือบางทีเขาอาจไม่คิดที่จะรู้ บางทีเขาก็น่าจะรู้แต่คิดว่าตัวเองทนได้ คิดว่ามันไม่เท่าไหร่หรอกชั้นทนได้จึงไม่ถามออกมาหรือบางทีเพราะเขาไม่รู้จริงๆก็ได้ นั่นแหละสิ่งที่กระตุ้นให้ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา

มันคือ "ความจริงอันโหดร้ายของครูจ้าง"
ครูจ้างในที่นี้หมายถึงครูทุกประเภทที่ไม่ใช่ข้าราชการครู ไม่ว่าคุณจะมีใบประกอบวิชาชีพหรือไม่ จบเกรดสูงแค่ไหน สถาบันสูงส่งปานใด ตราบใดที่คุณเป็นครูจ้างมันก็ไม่มีอนาคตทั้งนั้นแหละ ผมขอแยกประเภทครูจ้างดังนี้นะครับ ไล่จากดูดีสุด จนถึงแย่ที่สุด

๑. พนักงานราชการครู
พนักงานราชการจะสตาร์ทเงินเดือนสูงกว่าข้าราชการ เพราะสตาร์ทที่ 18,000 ขณะที่ข้าราชการครูสตาร์ทที่ 15,050-15,800 มีเงินเดือนขึ้นเหมือนข้าราชการ เพียงแต่ใช้สิทธิประกันสังคม ต่อสัญญาทุก 4 ปีไปเรื่อยๆ หลายๆคนที่เป็นพนักงานราชการเงินเดือนก็ 22,xxx กว่าแล้วทำไมยังไปสอบข้าราชการไปเริ่มเงินเดือน 15,xxx ใหม่ ทำไมเขาไม่เป็นพนักงานราชการไปเรื่อยๆ มันก็เพราะเหตุผลง่ายๆ ถ้าไม่ใช่ข้าราชการมันไม่มีอะไรมั่นคงหรอก ปัจจุบันคนไทยเกิดน้อยลง เด็กลดลงเรื่อยๆ ถนนหนทางดีขึ้น เด็กมีทางเลือกที่จะเข้าโรงเรียนดีๆ ทำให้โรงเรียนหลายแห่งเด็กลดลงเรื่อยๆ ขณะที่ไม่กี่แห่งเด็กเพิ่มขึ้น ถ้าคุณเป็นพนักงานราชการของโรงเรียนใหญ่ก็ดีไป แต่ถ้าเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก มีโอกาสสูงที่คุณจะอยู่ไม่ถึง 60 ปี และตอนนี้มันก็เริ่มแสดงผลแล้ว เพื่อนครูที่เป็นพนักงานราชการก็เริ่มโดนกดดันจากเขตแล้ว สำหรับเขตผมก็มีการเรียกประชุมพนักงานราชการ ครูจ้าง ไปชี้แจงนโยบายกันแล้ว อนาคตจะเป็นอย่างไร เทอมหน้าจะได้สอนไหม ตอนนี้ยังลูกผีลูกคน

๒. ครูจ้างโรงเรียนรัฐ
ก็เหมือนพนักงานจ้างตรงที่เป็นครูเหมือนกัน แต่ต่างกันชนิดหน้ามือกับส้น… ครูจ้างจะมีสัญญาปีต่อปี ไม่มีเงินเดือนขึ้น บางโรงเรียนดีหน่อยได้จ้าง 15,000 แต่บางโรงเรียนงบน้อยต่ำกว่าหมื่นกันก็เยอะแยะ ไม่มีอนาคตสำหรับครูจ้าง บางโรงเรียนก็โหดร้าย หักหัวคิว ขู่เข็ญสารพัด ที่โหดสุดที่เคยได้ยินคือต้องจ่ายค่าต่อสัญญาปีละหมื่นให้ ผอ.(ปัจจุบัน ผอ.คนนี้โดนสอบวินัยแล้ว) ผมเองก็เคยเป็นครูจ้างอาชีวะมาก่อน เข้าใจความรู้สึกดีเพราะเพื่อนครูจ้างไปผิดใจกับหัวหน้าแผนกเลยโดนไม่ต่อสัญญาซะอย่างนั้น มีดีอย่างเดียวคือได้สอบภายในนี่แหละ อย่างอื่นแย่หมด

๓. ครูจ้างเอกชน
เห็นหลายคนวางแผนกัน จะไปเป็นครูจ้างเอกชนเพื่อเรียน ป.บัณฑิต โอวววว โนววววววว ผมไม่รู้ว่าใครแนะนำความคิดนี้นะ แต่เชื่อผมเถอะ โรงเรียนเอกชนเขาไม่โง่ที่จะเป็นทางผ่านให้คุณ คุณรู้มั๋ยว่าคุณต้องเจออะไรในโรงเรียนเอกชน ผมไม่ขอพูดถึงโรงเรียนดีๆ มีมาตรฐานหรอกนะ เพราะมันมีไม่ถึง 10% ขอพูดถึงโรงเรียนเอกชนทั่วๆไปแล้วกัน อันดับแรกเลย เขาใช้งานคุณคุ้มมากกกกกกก หลายคนร้องไห้หลังจากที่ทำงานไม่ถึงเดือน หลายคนทนได้เป็นปี ถ้าคุณคิดจะหวังเรียน ป.บัณฑิตล่ะก็คุณต้องทนอย่างน้อย 3 ปี ถึงจะได้ใบประกอบวิชาชีพ อันดับสองคือเงินเดือนอันน้อยนิด สัญญาสวยหรูว่าเงินเดือนหมื่นอัพ แต่รับจริงอาจไม่ถึงเก้าพัน เคยเจอมั๋ย ครูจ้างเงินเดือน 7,200 นี่ไม่ได้ล้อเล่น เพราะเคยทำมาแล้ว ใครที่ได้เกินหมื่นก็ดีใจด้วยครับ อันดับสามคือใครแอบไปสอบบรรจุไล่ออก ไม่ใช่แค่ขู่นะนั่น เขาพูดกันตรงๆเลย บางโรงเรียนยึดใบประกอบวิชาชีพตัวจริงไว้ด้วยซ้ำ หลายคนใช้วิธีแจ้งหายแล้วไปขอใหม่กับคุรุสภา บางโรงเรียนก็ใจดีให้ไปสอบบรรจุ แต่ถ้าได้ขึ้นบัญชีก็โดนไล่ออกเลย เพราะเขาต้องหาครูมาแทน อันนี้ก็ต้องเข้าใจโรงเรียนเอกชนด้วย

๔. บุคลากรอื่น เช่น ครูธุรการ ครูพี่เลี้ยง ผดด.
ถ้าคุณคิดว่าสามอย่างข้างต้นแย่แล้วล่ะก็ อันดับสี่นี้คูณสามไปเลย เพราะคุรุสภาจะมองว่าคุณไม่ใช่ครู เป็นแค่บุคลากรทางการศึกษาเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์เรียน ป.บัณฑิตเพื่อขอใบประกอบวิชาชีพ สถานะคุณไม่ต่างจากภารโรง เพียงแต่ดูดีกว่าเท่านั้นเองไร้ซึ่งอนาคต ถึงแม้ว่า ผดด. เขาจะมีบรรจุก็เถอะ แต่มันเป็นการบรรจุภายในซึ่งคุณต้องใช้ เงินและเงิ๊นเงินเท่านั้นที่จะทำให้ถึงฝั่ง ถูกสุดที่เคยได้ยินคือสามแสนแต่เฉลี่ยที่ได้ยินคือห้า-เจ็ดแสน ถามว่าแพงขนาดนั้น ยังมีคนเอาเหรอ คำตอบคือมีครับ แถมแย่งกันด้วย

ความโหดร้ายมันยังไม่จบเท่านี้หรอกนะ คุณรู้มั๋ยแต่ละปีมีคนจบครูเท่าไหร่ และเปิดสอบบรรจุเท่าไหร่ และที่สำคัญกว่านั้น คุณรู้มั๋ยว่าแต่ละปีสอบผ่านกันกี่คน ตีตัวเลขกลมๆให้เลย ปริมาณคนสอบผ่านได้ขึ้นบัญชีแต่ละปีไม่ถึง 5% นี่ยังไม่นับสอบผ่านแล้วแต่เรียกไม่ถึงอีกก็หลายวิชาเอก ก่อนที่จะฝันหวานว่าชั้นจะเรียน ป.บัณฑิต เพื่อเอาใบประกอบวิชาชีพโปรดรู้ด้วยว่ามีครูจ้างหลายคนที่เขาสอบมาเป็นสิบปีแล้วก็ไม่ได้บรรจุซักที ไม่ใช่สอบไม่ผ่านนะ สอบผ่านแต่เรียกไม่ถึงนี่แหละ การที่คุณได้ใบประกอบวิชาชีพครูนั้น มันไม่ได้การันตีว่าคุณจะสอบบรรจุผ่าน หรือสอบผ่านแล้วจะได้เรียกบรรจุ

เวลาผ่านไปทุกปี บัดนี้เจ้ายังเป็นครูจ้างอยู่ มันไม่สนุกหรอก ที่เล่าให้ฟังถือว่าเป็นนิทานก่อนนอน ไม่ต้องถามถึงข้อมูล ถือซะว่าเล่าสู่กันฟังอย่าจริงจังมาก สำหรับคนที่ไม่ได้จบครูแล้วอยากเป็นครู คุณควรรู้ไว้ว่ากว่าจะมาเป็นครูมันไม่ได้ง่ายดายและสวยงามเลย

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://pantip.com/topic/35658116

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: