เกิดได้7วันก็ไม่เห็นพ่อแม่!! ด.ญ.วัย14 ยอดกตัญญู ช่วยตา-ยายหารายได้จุนเจือครอบครัว ฝันอยากเป็นทหาร





 

วันที่ 11 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยเรื่องราวของ “น้องแป้ง” เด็กหญิงวัย 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนเทศบาล 3 (เทศบาลสงเคราะห์) จากนายอัศวิน คงเพ็ชรศักดิ์ ผู้อำนวยการสถานศึกษาฯ ถึงเรื่องราวความกตัญญูรู้คุณ และเป็นเด็กที่ขยัน ใฝ่เรียนรู้จนได้ผลการเรียนในระดับสูง และยังเป็นตัวแทนจังหวัดราชบุรี แข่งขันคนเก่งโรงเรียนท้องถิ่นระดับประเทศ ซึ่งสร้างความภูมิใจให้กับคณะครู เพื่อนนักเรียน รวมไปถึงผู้ปกครองของน้องแป้งด้วย แม้น้องแป้งจะมีฐานะความเป็นอยู่จากครอบครัวที่ปานกลางยึดอาชีพขายไส้กรอกย่างริมทางเท้าเพื่อหารายได้เลี้ยงชีพและครอบครัว

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปติดตามเรื่องราวชีวิตของ “น้องแป้ง” ด.ญ.ปิยวรรณ ชาวใต้ อายุ 14 ปี อาศัยอยู่กับนายสัมผัส ธุมา อายุ 60 ปี และ นางมอญ ธุมา วัย 61 ปี ซึ่งเป็นตากับยาย ในบ้านเลขที่ 270 ซอยปิฏฐปาตี ถนนมนตรีสุริยวงศ์ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังจากที่พ่อและแม่ของน้องแป้งแยกทางกันตั้งแต่น้องแป้งคลอดกำเนิดได้เพียง 7 วัน ทำให้น้องแป้งเรียกตากับยายว่า “พ่อและแม่” มาตลอดจนถึงปัจจุบัน

 

 

โดยวันนี้น้องแป้งจะเข็นรถขายไส้กรอกออกไปขายกับยายบริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมัน ปตท.บ้านไร่ หรือที่ปากซอยมนตรีสุริยวงศ์ 6 ซึ่งเป็นสถานที่ค้าขายสุดท้ายของวัน และก็จะมีลูกค้าขาประจำจะมาคอยรอซื้อ ปกติก็จะขายหมดก่อนเวลา 20.00 น. เนื่องจากไส้กรอกของน้องแป้งจะมี 2 รสชาติ แบบเปรี้ยวกับไม่เปรี้ยว แล้วแต่ความชอบของลูกค้า จำหน่ายก็ไม่แพง 8 ลูก 10 บาท มีผัก พริก และขิงแถมให้ด้วย

ซึ่งน้องแป้งเป็นเด็กยิ้มเก่ง อารมณ์ดี บางเวลาค่อนข้างเขินอาย และเป็นที่รักของเพื่อนๆ โดยน้องแป้งจะตื่นแต่เช้ามาล้างภาชนะบนรถเข็นเพื่อเตรียมให้ตากับยายออกไปขายไส้กรอกในช่วงเย็น และกิจวัตรประจำวันคือน้องแป้งจะตื่นขึ้นมาหุงหาอาหารแล้วแต่งตัวไปโรงเรียน หลังเลิกเรียนกลับมาพอมีเวลาว่างก็จะทำการบ้าน อ่านหนังสือ ทบทวนบทเรียนที่เรียนมา นอกจากนี้ยังได้รับการไว้วางใจจากโรงเรียนให้เป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารโรงเรียนที่มีหน้าที่จดบันทึกรับฝากเงินของนักเรียนผู้มาใช้บริการ ส่วนหลังเลิกเรียนจะกลับมาทำหน้าที่ภายในบ้านด้วยการปัดกวาดเช็ดถูทำความสะอาดบ้าน หุงข้าว และช่วยทำไส้กรอกย่าง รวมไปถึงการเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ บนรถสำหรับให้ยายเข็นรถไปขายไส้กรอกย่าง และบางวันถ้าไม่มีการบ้านน้องแป้งก็จะตามออกไปช่วยยายนั่งยายของด้วย

 

 

นายอัศวิน เล่าว่า น้องแป้ง เป็นเด็กที่ร่าเริง ตั้งใจเรียน อยู่ที่โรงเรียนก็จะทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ค่อนข้างที่จะมาก ในเรื่องของภาระงานจะต้องทำทุกวันมีความมานะอดทนมีความระเอียดรอบคอบ นอกจากนี้น้องแป้งยังใช้เวลาหลังจากที่ทำกิจกรรมของทางโรงเรียนแล้วมาอ่านหนังสือ ล่าสุดได้เป็นตัวแทนของจังหวัดราชบุรีเข้าแข่งขันคนเก่งของท้องถิ่นในระดับประเทศ

นอกจากนี้บ้านก็จะยังช่วยเหลือในส่วนของผู้ปกครองซึ่งตอนนี้อยู่กับยายก็จะช่วยเหลือในเรื่องของการทำงานบ้านรวมไปถึงการประกอบอาชีพของยายอีกด้วย โดยที่ทางโรงเรียนยังได้ดูในเรื่องของทุนการศึกษาเพราะว่าทางครอบครัวค่อนข้างที่จะไม่ได้มีฐานะที่สูงเท่าไหร่อยู่ในฐานะปานกลาง ทางโรงเรียนก็จะให้ทุนการศึกษารวมถึงในเรื่องของอาชีพเสริมต่างๆ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการที่จะมีความรู้ไปประกอบอาชีพหรือว่าเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นไปทางโรงเรียนก็จะเสริมทักษะให้มีความรู้ความชำนาญต่อไป

ด้านนางมอญ ยายของน้องแป้ง เล่าให้ฟังว่า ทุกวันหลังจากกลับจากโรงเรียนจะมาช่วยงานที่บ้านและทำการบ้าน บางวันการบ้านไม่เยอะก็จะออกมาช่วยตนเองขายไส้กรอก ภูมิใจที่น้องแป้งเป็นเด็กที่ขยันกตัญญูว่าง่ายไม่เคยทำให้เสียใจ อีกทั้งยังมาเคยออกไปเล่นหรือเที่ยวที่ไหนเหมือนเด็กๆ ทั่วไป เวลาที่ตากับยายไม่สบายน้องแป้งจะมาคอยดูแลคอยเฝ้าทั้งที่บ้านและโรงพยาบาล ส่วนความฝันของตนเคยบอกน้องแป้งว่า ตากับยายอยากให้ตั้งใจเรียนขยันจะได้เรียนจบสูงๆ เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ส่วนตัวเขาเองอยากเป็นทหาร ก็เลยบอกเขาไปว่า เป็นทหารอ่อนแอไม่ได้เป็นทหารต้องฝึกหนัก ตากับยายอยากให้เป็นพยาบาล เขากลัวเลือดไม่เอาไม่งั้นก็เป็นครู แต่น้องแป้งก็คิดอยู่นานและก็บอกยืนยันว่าอยากเป็นทหาร ตนจึงบอกน้องแป้งไปว่า “แม่แก่และอายุมากแล้วนะหาให้ส่งเสียให้เรียนได้ก็ต้องใจเรียน”

 

 

ขณะที่น้องแป้ง กล่าวว่า ตั้งแต่จำความได้ก็อยู่กับตากับยายมาจนถึงทุกวันนี้เข้า 14 ปีแล้ว ยายจะคอยเลี้ยงดูทะนุถนอมด้วยความรักเหมือนลูก ยายเคยเล่าให้ฟังว่าต้องหยุดขายของมาเพื่อเลี้ยงดูตนเพราะตนยังเล็กมาก อีกทั้งฐานะก็ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนคนอื่น ตาต้องทำงานหนักเพื่อนำเงินมาเลี้ยงดุครอบครัว ส่วนพ่อกับแม่แท้ๆ ก็ไม่ได้ทิ้งไปไหน แต่ด้วยทั้ง 2 คนแยกทางกัน พ่อไปทำงานต่างประเทศกลับมาไทยก็จะแวะมาหาบ้าง ส่วนแม่ก็ไปมีครอบครัวใหม่แล้วแวะมาเที่ยวหาบ่อย ตนก็ไม่ได้โกรธอะไร ทุกวันนี้อยู่กับตากับยายก็รักและมีความสุข ตนเรียกท่านทั้งสองว่า “พ่อกับแม่” เพราะรักและห่วงมาก ส่วนการเรียนหนังสือ ตนเองมีความตั้งใจและพยายามที่จะเรียนหนังสือให้ออกมาดีที่สุดได้ผลการเรียนในระดับ 3.5 ขึ้น และได้ร่วมกิจกรรมของโรงเรียนเป็นพนักงานธนาคารโรงเรียนและเป็นตัวแทนของโรงเรียนเข้าแข่งขันคนเก่งของโรงเรียนในท้องถิ่นและกำลังจะเข้าแข่งขันในระดับประเทศในวิชาภาษาไทยด้วย

น้องแป้ง เล่าต่อว่า ตนไม่เคยได้ออกไปเที่ยวเลย หลังจากเลิกเรียนก็กลับบ้านมาทำงานที่บ้านช่วยป้าที่บ้านและออกมาช่วยยายขายของ เวลาจะออกไปไหนอย่างเช่นถ้าไปทำงานที่บ้านเพื่อก็จะขออนุญาตตากับยายทุกครั้งหากท่านไม่ให้ไปตนก็จะไม่ไป ส่วนอนาคตตนเองอยากเป็นทหาร เพราะว่าชอบในเรื่องของเครื่องแบบ ไม่อยากให้ตายายลำบากอยากมียศสูงๆ อยากมีเงินเดือนเยอะๆ อยากดูแลยายกับตา เพราะหนูรักยายกับตา หนูอยากบอกว่า “หนูจะไม่ดื้อไม่ซน จะช่วยงานทุกอย่าง”

ขณะที่ลูกค้าและครูอาจารย์หลายคนที่เคยมาอุดหนุน ต่างก็ชื่นชมน้องแป้งและครอบครัว โดยยกย่องให้น้องแป้งเป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชน พร้อมกับชื่นชมยายกับตาของน้องแป้งที่รักและดูแลน้องแป้งมาตลอด 14 ปี อีกทั้งยังเป็นแบบอย่างของความขยัน ที่เข็นรถขายไส้กรอกย่างมากว่า 20 ปี ที่สามารถนำรายได้มาเลี้ยงดูจุนเจือครอบครัวและส่งเสียให้น้องแป้งได้เล่าเรียนมาพร้อมทั้งคอยพร่ำสอนให้น้องแป้งเป็นเด็กดี ขยัน รู้จักศึกษาเล่าเรียนและรู้จักประกอบอาชีพที่สุจริตจนถึงทุกวันนี้

ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: