แน่นอนว่าคนที่เป็นแฟนกัน ก็ย่อมอยากจะให้อีกคนรักและเอาใส่ใจดูแลเราเป็นอย่างดี ซึ่งเหตุผลนี้ก็นำมาซึ่งการ “เอาใจ” และลามไปถึง “การเอาแต่ใจในที่สุด” หากเป็นช่วงแรกๆของการรักกัน อีกฝ่ายก็คงจะยอมเอาใจกันได้ แต่ถ้านานๆไปก็คงจะไม่ไหวเหมือนกัน ด้วยเหตุนี้ เราจึงอยากจะเสนอ “กลเม็ดเด็ดขาด” ที่คุณจะสามารถนำไปใช้กับแฟนที่เอาแต่ใจของคุณได้ จะต้องทำอย่างไรบ้างนั้น มาดูกัน
7 วิธีรับมือ “แฟน” เอาแต่ใจ
1. เรียนรู้การให้และรับ
ให้มากไปก็ทุกข์ รับมากไปก็กลายเป็นการเอาแต่ใจ สิ่งที่ดีที่สุดจึงเป็นการยึดมั่นในทางสายกลาง นั่นคือ มีทั้งการให้และการรับที่สมดุลกัน หากคุณเริ่มรู้ตัวว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา คุณเป็นฝ่ายให้แต่เพียงฝ่ายเดียว คุณก็ต้องพยายามลดมันให้น้อยลง และดูปฏิกริยาตอบสนองของคนรักของคุณ หากเขารักคุณมากพอ เขาจะไม่มีทางปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เป็นอันเด็ดขาด หรืออาจมีผลทำให้เขาเริ่มรู้ตัวว่าเขาจะต้องตอบแทนอะไรบางอย่างกลับมาให้แก่เราบ้างแล้ว
2. ไม่สนับสนุนคนรักในทางที่ผิด
การที่คนเรารักกัน ก็มักจะเห็นพ้องไปตามกันอยู่เสมอ ซึ่งแม้ว่าบางครั้งเรื่องนั้นจะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง คุณก็อาจจะเผลอเห็นดีเห็นงามตามไปด้วย ซึ่งการสนับสนุนคนรักในสิ่งที่ผิดพลาด อาจเป็นสิ่งที่เพิ่มความเอาแต่ใจให้แก่คนรักของคุณได้ ดังนั้น หากคนรักของคุณทำอะไรบางอย่างผิดไป คุณก็ควรจะพูดให้เขารู้สึกบ้างว่า สิ่งที่เขาทำลงไปนั้นไม่ถูกต้อง และมีผลให้คุณรู้สึกไม่มีความสุขอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม ทุกๆคำพูดต้องตั้งอยู่บนเหตุและผลที่สำคัญ และไม่ใช้อารมณ์โดยเด็ดขาด เพราะจะยิ่งทำให้เรื่องที่เกิดขึ้นบานปลายกันไปใหญ่
[ads]
3. ร้องขอให้เขาช่วยเหลือบ้างเป็นครั้งคราว
สำหรับผู้หญิงคนไหนที่มีแฟนหรือสามีเอาแต่ใจ ลองเรียกร้องให้เขาเข้ามาช่วยงานในส่วนที่คุณคิดว่าเกินความสามารถของคุณบ้าง และเรียนรู้ที่จะแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบของกันและกัน การฝึกให้เขาเข้ามามีส่วนร่วมในการใช้ชีวิตร่วมกัน น่าจะเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดอาการเอาแต่ใจของคู่รักของคุณได้บ้าง
4. อย่ากังวลว่าเขาจะปฏิเสธ
สืบเนื่องต่อจากข้อที่แล้ว การที่คุณตกลงอะไรบางอย่างกับเขา อย่าคิดไปเองฝ่ายเดียวว่า หากทำไปแล้ว จะทำให้เขารู้สึกไม่ดี ตราบใดที่คุณยังไม่ได้ถามความคิดเห็นจากเขา เพราะการที่คุณคิดไปเองฝ่ายเดียว ก็คงจะมีแต่คุณเท่านั้นนั่นละที่จะเครียดและวิตกจริตไปเอง ดังนั้น หากเห็นว่ามันเป็นเรื่องดี คุณก็ต้องลองที่จะทำ และถ้าหากเขารักคุณมากพอ เขาก็จะต้องพร้อมที่จะเข้าใจและให้เกียรติในความคิดของคุณด้วย
5. อย่าโทษตัวเองฝ่ายเดียว
เป็นเรื่องธรรมดาของคู่รักที่จะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งหรือเรื่องเข้าใจผิดกัน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น อย่าคิดแต่ว่าทุกอย่างเป็นความผิดของคุณเพียงฝ่ายเดียว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นย่อมเป็นความผิดร่วมกันของทั้งสองฝ่าย การคิดหาทางออกร่วมกันจึงน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า และวิธีนี้ยังช่วยลดความเอาแต่ใจของคนรักของคุณได้ด้วย
6. อย่าผูกมัดตัวเองด้วยสัญญา
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนรักกันจะมีสัญญาใจอะไรบางอย่างร่วมกัน แต่การที่เราสัญญาอะไรกับคนรักมากเกินไป อาจทำให้สัญญานั้นกลายมาเป็นข้อผูกมัดที่ทำให้คุณดิ้นไม่หลุดได้ อีกทั้ง กาลเวลาที่ผ่านไป ก็สามารถเปลี่ยนความคิดหรือจิตใจของคนได้ การสัญญาจึงเป็นเสมือนดาบสองคมที่จะทำร้ายคุณได้ในภายหลัง ดังนั้น หากเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกว่า คุณอาจจะไม่สามารถทำตามสัญญาได้ ก็ควรบอกเหตุผลที่เป็นเช่นนั้นไปกับเขาตรงๆ เพราะหากถึงเวลานั้นขึ้นมาเมื่อไหร่ เขาจะได้ไม่เอามาเป็นเหตุผลในการร้องเรียกความยุติธรรม หรือเหตุผลในการเอาแต่ใจได้
7. ไม่ควรยกเลิกนัดสำคัญเพื่อเขา
ถ้าหากว่าคุณเกิดมีนัดสำคัญกับครอบครัวหรือเพื่อนขึ้นมา แต่คู่รักของคุณก็ร้องเรียกที่จะไปเที่ยวกับคุณในเวลาเดียวกันด้วย คุณก็ไม่ควรที่จะเลื่อนนัดคนสำคัญเพื่อให้เวลากับคนรักของคุณ เพราะการกระทำเช่นนี้ จะยิ่งเพิ่มความเอาแต่ใจของคนรักของคุณมากขึ้นไปใหญ่ การพยายามพูดด้วยเหตุผล และหาข้อเสนออื่นๆที่คู่รักของคุณจะยอมรับได้ น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าที่คุณจะสามารถรักษาทั้งคนรัก เพื่อน หรือพ่อแม่ไปได้ในเวลาเดียวกัน
หากคุณสามารถทำได้ตามนี้ ก็น่าจะช่วยให้ “แฟน” ของคุณ ลดความเอาแต่ใจลงได้บ้าง แต่ถ้าไม่เวิร์คจริงๆ เปลี่ยนแฟนคนใหม่อาจจะง่ายกว่า
เรียบเรียงข้อมูลโดย ThaiJobsGov.com
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ