ใครใช้เสียงบ่อยๆ ต้องอ่าน!! 12 เคล็ดลับทำเสียงให้ใสราวกับน้ำค้างยามเช้า





เสียง เป็นอีกหนึ่งอาวุธที่ช่วยหาเงินได้ ใครที่มีเสียงใสปิ๊ง เพราะพริ้ง ก็ย่อมช่วยให้คุณเป็นต่อในด้านของการเจรจาค้าขายหรือโฆษณาชวนเชื่อได้มากกว่า หรือถ้าเป็นนักร้อง นักพูด หรือพิธีกร ก็คงไม่มีใครอยากมีน้ำเสียงที่แหบพร่าไม่น่าฟัง เพราะพวกเขานั้นต้องใช้เสียงเป็นหลักในทุกๆวัน ดังนั้น การดูแลเสียงด้วยวิธีที่ถูกต้อง จึงเป็นสิ่งที่คนใช้เสียงต้องรับรู้เอาไว้ เพื่อให้ยังสามารถใช้เสียงได้อย่างยาวนานเท่านานนั่นเอง

สายเสียงที่โดนทำร้ายมักจะแสดงอาการเสียงแหบ เสียงหาย เสียงแตกพร่า มีลมแทรกระหว่างพูด ขึ้นเสียงสูงไม่ได้ พูดไม่มีเสียง หรืออาจจะต้องเค้นคอให้มีเสียงออกมา ใครที่เริ่มมีอาการเช่นนี้ ต้องรีบรักษาได้แล้วละค่ะ

35.1

12 สิ่งที่ควรทานและควรปฏิบัติเพื่อรักษาเสียงของคุณ

1. ทานน้ำเยอะๆ ทั้งช่วงเวลาหลังอาหารและก่อนนอน รวมไปถึงก่อนการร้องเพลงหรือการใช้เสียงที่ต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้คอแห้ง ให้ได้วันละ 8 -10 แก้ว

2. หลีกเหลี่ยงการพูดติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ ถ้าจำเป็นต้องพูดนานๆ ควรมีเวลาสำหรับหยุดพักการใช้เสียงด้วย เช่น ทุกครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง เป็นต้น เพื่อไม่ให้สายเสียงอ่อนล้าเสียจนเกินไป

3. งดสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด รวมถึงดื่มสุรา ชา กาแฟ น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มที่ร้อนหรือเย็นจัดเกินไป รวมถึงไม่ควรรับประทานอาหารรสจัด ทั้งเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัด หวานจัด หรือขมจัด

4. ไม่ควรตะโกนหรือตะคอก ด้วยเสียงดังๆ รวมถึงการพูดด้วยโทนเสียงที่ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป

5. หากเป็นช่วงเวลาที่ป่วยหรือมีการติดเชื้อเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ควรหลีกเหลี่ยงการร้องเพลงหรือพูดนานๆไปก่อน เพื่อช่วยถนอมและพักฟื้นสายเสียงให้แข็งแรงก่อนกลับมาใช้งานอีกครั้ง โดยเฉพาะคนที่ร้องเพลงหรือเล่นดนตรีเป็นอาชีพตอนกลางคืน จะต้องรักษาสุขภาพให้ดีเป็นพิเศษด้วย

6. พักผ่อนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

35.2

7. การอมลูกอมเย็นๆ สามารถช่วยให้ชุ่มคอและรักษาเสียงให้ดีขึ้นได้อีกวิธีหนึ่ง

8. งดการดื่มนมหรืออาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของนมก่อนขึ้นร้องเพลง เพราะอาหารดังกล่าวมีผลต่อคุณภาพเสียงของนักร้อง

9. ทานน้ำเย็นให้น้อยที่สุด ถ้าเป็นไปได้ควรทานน้ำอุณหภูมิธรรมดา หรือไม่เย็นมากจนเกินไป

10. พยายามไม่เคี้ยวหมากฝรั่ง เพราะการเคี้ยวหมากฝรั่งมีผลต่อน้ำลายที่หล่อเลี้ยงลำคอให้ลื่นตลอดเวลา

11. ฝึกนิสัยการหายใจที่ถูกต้องขณะพูดโดยการใช้ส่วนของกล้ามเนื้อท้องเป็นหลัก จะช่วยให้สามารถหายใจและพูดไปในทิศทางที่สอดคล้อง และเป็นผลดีต่ออวัยวะที่กำเนิดเสียงได้มากขึ้น

12. หลีกเลี่ยงสภาวะแวดล้อมที่มีฝุ่นควัน ไอสารเคมี หรืออากาศที่ไม่บริสุทธิ์ รวมไปถึงการไม่อยู่ในที่ที่มีอากาศแห้งหรือเย็นจนเกินไป เพราะสิ่งแวดล้อมดดังกล่าวเป็นตัวเร่งให้เกิดความระคายเคืองต่อกล่องเสียงและสายเสียงให้เพิ่มมากขึ้นได้

[ads]

เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้นก็ควรเพิ่มความใส่ใจในร่างกายให้มากตามอายุไปด้วย การหมั่นดูแลใส่ใจในตัวเองและสังเกตความผิดปกติที่เกิด จะช่วยให้เราสามารถแก้ไขความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้อย่างทันท่วงที และสามารถฟื้นตัวให้กลับมาใช้งานได้ดีดังเดิมอีกครั้ง

 

ข้อมูลจาก http://www.inattt.com

เรียบเรียงข้อมูลโดย ThaiJobsGov.com

[ads=center]

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: