คนที่มีปัญหาทางสายตาโดยส่วนใหญ่ มักจะแก้ไขปัญหาการมองเห็นเหล่านี้ด้วยการสวมแว่นสายตา ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายแว่นสายตาที่มีอยู่ทั่วไป แต่สำหรับบางคนอาจมีความรู้สึกไม่ถนัดนัด หากต้องมีอะไรมาบดบังทัศนวิสัย หรือไม่ชื่นชอบการสวมแว่นสักเท่าไรนัก ก็มักจะใช้คอนแทกเลนส์เป็นทางออกเพื่อแก้ไขการมองเห็น และช่วยให้สายตากว้างไกลมากขึ้น
ซึ่งประเภทของคอนแทคเลนส์ก็มีหลายลักษณะทั้งแบบชนิดแข็งหรือชนิดนิ่ม ซึ่งความแตกต่างของวัสดุก็มีผลต่อการซึมผ่านของออกซิเจนเข้าสู่สายตาด้วย โดยหากเป็น ‘คอนแทคเลนส์ชนิดแข็ง’ จะมีความคงทนต่อการเกิดรอยขูดขีดและเกาะติดของคราบมากกว่า แต่ก๊าซก็จะสามารถซึมผ่านได้น้อยกว่า ส่วน ‘คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม’ จะทำจากแผ่นพลาสติกจำเพาะอีกประเภทหนึ่งที่มีลักษณะนิ่ม บิดงอได้ อุ้มน้ำสูงกว่า และเป็นผลให้ออกซิเจนสามารถผ่านเข้ากระจกตาได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีการนำวัสดุประเภทซิลิโคนไฮโดรเยล (Silicone hydrogels)มาใช้ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ออกซิเจนผ่านเข้าสู่ตาได้มากยิ่งขึ้นไปอีก
แต่เนื่องจากการใช้คอนแทคเลนส์จะต้องใช้ติดเข้าไปในตาของเรา ทำให้โอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคนั้นมีได้มากกว่า ดังต่อไปนี้
1. อาการตาแห้ง ซึ่งเกิดจากการแพ้ พบในผู้ที่ใช้คอนแทคเลนส์นาน 2-3 ปี นอกจากนี้การใส่คอนแทคเลนส์เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณภาพของน้ำตาเปลี่ยนแปลงไปทำให้การไหลเวียนของน้ำตาที่กระจกตาลดลง
2. การอักเสบของกระจกตาและเยื่อบุตา จะพบมีเยื่อบุตาแดงเคืองตาขี้ตาเหนียวน้ำตามีเศษโปรตีนหรือมีเศษโปรตีนติดที่คอนแทคเลนส์มีการเลื่อนตำแหน่งของคอนแทคเลนส์จากกระจกตาอย่างมากซึ่งทำให้เกิดภาพมัว
3. การเกิดตุ่มอักเสบที่เปลือกตาด้านใน พบมากในผู้ที่ใช้คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม เกิดจากการระคายเคือง อาการที่เกิดคือ ภาวะหนังตาตก ตาแดง ระคายเคือง มีการสร้างสารจำพวกโปรตีนที่ละลายได้ มองภาพไม่ชัด มีน้ำตา ตาไม่สู้แสง
4. การอักเสบที่เยื่อบุผิวของกระจกตา ลักษณะเป็นจุดเล็กๆ เนื่องจากเกิดบาดแผลหรือการช้ำที่เยื่อตา ตาแห้ง มีอาการแพ้ หรือขาดออกซิเจน ซึ่งแผลจุดเล็กๆอาจมารวมกันเข้าเป็นบริเวณใหญ่และเกิดการติดเชื้อ ซึ่งเป็นอันตรายได้ จึงจำเป็นต้องให้ผู้ป่วยหยุดการใช้คอนแทคเลนส์จนกว่าแผลจะหายเสียก่อน
5. การติดเชื้อที่กระจกตา เป็นอาการของโรคที่เกิดจากการใช้คอนแทคเลนส์ที่เป็นอันตรายที่สุด เนื่องจากอาจส่งผลให้ตาบอดถาวรได้ สาเหตุเป็นได้ทั้งจากตัวผู้ใช้เอง น้ำยาที่ใช้กับเลนส์ หรือภาชนะบรรจุเลนส์ จากการศึกษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีพบว่า ในกลุ่มผู้ใช้คอนแทคเลนส์ที่มีอาการติดเชื้อที่กระจกตา มีสูงถึง 67 เปอร์เซ็นต์ที่มีประวัติการใส่เลนส์ขณะนอนหลับในเวลากลางคืน 34 เปอร์เซ็นต์พบว่าขั้นตอนในการดูแลรักษาเลนส์สัมผัสไม่ได้มาตรฐาน และชนิดของคอนแทคเลนส์ที่พบว่ามีการใช้มากที่สุดเป็นแบบนิ่มชนิดเปลี่ยนเป็นระยะ
[ads]
การใช้คอนแทกเลนส์ให้ถูกต้องควรเริ่มต้นตั้งแต่วิธีการใส่ โดยนิ้วและเล็บที่ใช้สัมผัสคอนแทกเลนส์ควรจะต้องสะอาด เล็บไม่ยาวจนเกินไป เพราะหากพลาดพลั้งไป อาจเสี่ยงจิ้มตาจนทำให้ตาบอดได้ จากนั้นให้หยิบคอนแทกเลนส์ขึ้นมาอย่างเบามือและตรวจสอบว่าคอนแทกเลนส์นั้นหงายถูกด้านหรือไม่ หลังจากใส่เข้าตาได้แล้วให้นวดคลึงที่เปลือกตาอย่างเบามือ เพื่อจัดให้คอนแทกเลนส์แนบสนิทกับลูกตา
ในกรณีที่ใส่คอนแทกเลนส์แล้วรู้สึกเคืองตา ให้รีบถอดเลนส์ออกมาเพื่อล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาคอนแทกเลนส์ เนื่องจากอาจมีฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกติดอยู่ จากนั้นจึงลองใส่ซ้ำอีกรอบ หากยังไม่รู้สึกดีขึ้น ไม่ควรฝืนใส่ซ้ำเพราะอาจทำให้เกิดอาการตาบาดเจ็บได้ ควรหยุดใช้คอนแทคเลนส์ทันทีและรีบไปพบแพทย์หรือจักษุแพทย์โดยเร็ว
ในขั้นตอนการล้างเก็บ ควรถูคอนแทกเลนส์ด้วยน้ำยาคอนแทกเลนส์ให้สะอาดเพื่อขจัดคราบโปรตีนที่สะสมมาตลอดทั้งวัน แล้วแช่เก็บใส่ตลับที่ปิดฝาสนิทเพื่อป้องกันออกซิเจน ตลับที่ใช้เก็บคอนแทกเลนส์ก็ควรล้างทำความสะอาดให้ดีและเปลี่ยนทุกเดือนเพื่อลดโอกาสการสะสมของเชื้อโรค แต่หากตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่คุณไม่ได้พกน้ำยาคอนแทกเลนส์ติดตัวไปด้วย อาจแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยการล้างด้วยน้ำดื่ม และอย่าปล่อยให้คอนแทกเลนส์แห้งเป็นอันขาด เพราะจะทำให้เลนส์เสื่อมสภาพแข็งจนไม่สามารถใส่ได้อีก
นี่เป็นเพียงวิธีการดูแลสายตาที่ผ่านการใช้คอนแทคเลนส์เบื้องต้นเท่านั้น หากคุณสามารถดูแลได้เป็นอย่างดี โอกาสที่จะได้ใช้มันไปนานๆโดยปราศจากการติดเชื้อโรคก็ย่อมมีได้มากกว่า
ข้อมูลจาก http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/
เรียบเรียงข้อมูลโดย ThaiJobsGov.com
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ