7 วิธีที่จะทำให้อาการ ‘ปวดประจำเดือน’ หายเป็นปลิดทิ้ง





อาการปวดประจำเดือน นับเป็นความทรมานที่ผู้หญิงเกือบทุกคนต้องพบเจอและยากเหลือเกินที่จะหลีกเลี่ยง ก็เพราะร่างกายของผู้หญิงถูกออกแบบให้เป็นเพศที่ต้องอดทนต่อการสืบเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ ทำให้ในทุกๆเดือนร่างกายจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับตัวให้พร้อมต่อการเจริญพันธุ์ และนั่นก็คือสาเหตุที่ทำให้เกิดประจำเดือน หนึ่งในสัญญาณเตือนความเป็นหญิงนั่นเอง

‘ประจำเดือน’ ถือเป็นพฤติกรรมธรรมชาติของสตรีที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ เพราะเมื่อใดที่ประจำเดือนหมดอย่างแน่นอนไปแล้ว คุณก็จะไม่สามารถมีลูกได้อีก แต่สิ่งที่เป็นของคู่กันกับประจำเดือน ก็คือ อาการปวดอันแสนทรมาน ที่สาวๆหลายคนต้องพบเจอ และคอยรบกวนความสุขในการใช้ชีวิตของพวกเธออยู่เรื่อยๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่อาการปวดประจำเดือนจะเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1-2 ของการมีประจำเดือน และลดน้อยลงจนหายไปภายใน 1-2 วัน ซึ่งอาการปวดเช่นนี้ไม่ได้เป็นกับผู้หญิงทุกๆคน บางคนอาจจะมีอาการปวดท้องมากในขณะที่มีประจำเดือนทุกครั้ง แต่ในขณะที่บางคน แทบจะไม่เคยมีอาการปวดท้องเลยก็มี

ตัวการสำคัญของอาการปวดท้องประจำเดือน ก็เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และการที่ร่างกายมีการหลั่ง ”สารโพรสตาแกลนดิน” ออกมามากกว่าปกติ สารตัวนี้นี่เองที่มีผลให้เกิดอาการปวดท้องที่คุณๆเป็นกันอยู่ เนื่องจากสารสารโพรสตาแกลนดินจะไปทำหน้าที่ปิดรูหลอดเลือดที่รั่ว จึงส่งผลให้มดลูกเกิดอาการบีบเกร็งตัว จนทำให้เกิดอาการปวดนั่นเอง อย่างไรก็ตาม มักจะพบว่าอาการปวดท้องประเภทนี้ในหญิงสาวที่มีอายุน้อย ดังนั้น ใครที่ยังคงปวดท้องอยู่ ก็แสดงว่าคุณนั้นยังไม่ใช่สาวแก่สักเท่าไร

เมื่อเกิดอาการปวดท้องแล้ว หลายคนก็เลือกที่จะทานยาแก้ปวดเพื่อระงับความทรมานเหล่านี้ แต่การรับประทานยาในทุกครั้งที่ปวดท้อง ก็ไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องสักเท่าใด และเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น หากพอจะทราบวิธีที่ช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกจุด ก็คงจะช่วยให้คุณไม่ต้องมานั่งตัวงอปวดท้องอีกต่อไปได้อย่างแน่นอน

[ads]

ทีนี้มาดูกันดีกว่าว่า “การรับประทานอาหารแบบไหน ที่จะช่วยป้องกันอาการปวดท้องประจำเดือนได้บ้าง”

1. หยุดทานอาหารทอด

รู้หรือไม่ว่า อาหารทุกชนิดที่ผ่านการทอดด้วยน้ำมัน จะช่วยเร่งการผลิตสารพรอสตาแกลนดินส์ออกมามากขึ้น ซึ่งการที่เรามีสารตัวนี้อยู่ในร่างกายมาก จะทำให้กล้ามเนื้อมดลูกถูกบีบตัวอย่างรุนแรงมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้อาการปวดท้องที่คุณกำลังเป็นอยู่ทวีความรุนแรงมากขึ้นไปกว่าเดิม ดังนั้น หากสามารถหลีกเลี่ยงอาหารพวกนี้ได้ ก็น่าจะช่วยให้อาการปวดท้องรอบเดือนที่คุณเคยเป็น ลดความทรมานลงได้บ้าง


2. ดื่มน้ำให้มากขึ้น

การดื่มน้ำเรื่องง่ายๆที่คุณอาจมองข้าม ทราบหรือไม่ว่า การดื่มน้ำให้มากขึ้น สามารถช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนที่คุณเป็นอยู่ได้ เนื่องจากน้ำเป็นหนึ่งในตัวการที่จะรักษาความสมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งหากฮอร์โมนตัวนี้มีความสมดุล ก็จะมีผลให้อาการปวดท้องประจำเดือนลดน้อยลงได้

 

3. ลดคาเฟอีน

หากรู้สึกปวดท้องเมื่อไร พยายามอย่าดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน จำพวกกาแฟ ชา น้ำอัดลม เป็นอันขาด รวมไปถึงช่วงเวลาก่อนที่ประจำเดือนจะมาด้วย เนื่องจากสารคาเฟอีนในอาหารเหล่านี้ จะมีฤทธิ์ต่อการขับปัสสาวะ และยังผลให้อาการปวดท้องของคุณรุนแรงมากยิ่งขึ้น

 

4. ทานอาหารเสริมแมกนีเซียม         
ผักโขม ผักปวยเล้ง เต้าหู้ ถั่วอัลมอนด์ มะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต กล้วย นม และโยเกิร์ต ล้วนเป็นกลุ่มอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุแมกนีเซียมทั้งนั้น การได้รับอาหารที่มีแร่ธาตุตัวนี้เข้าไป จะทำให้กล้ามเนื้อมดลูกที่เคยหดเกร็ง คลายตัวลงได้ ซึ่งส่งผลให้อาการปวดท้องระหว่างการมีประจำเดือนของคุณผู้หญิงบรรเทาลงได้นั่นเอง 

15.1

ภาพจาก : http://www.popsugar.com/moms/Medication-While-Trying-Conceive-14456566

5. ทานวิตามินเสริม
วิตามินในกลุ่มที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทั้ง วิตามิน A, วิตามิน B, วิตามิน C, วิตามินD, วิตามินE  และกลุ่มแร่ธาตุอย่างแคลเซียม แมกนีเซียม หรือโปแตสเซียม มีผลต่อการช่วยบรรเทาอาการปวดท้องของคุณได้เป็นอย่างดี เพียงแต่ต้องเลือกช่วงเวลาในการรับประทานให้เหมาะสม ซึ่งช่วงที่ดีที่สุด คือ ก่อนที่ประจำเดือนจะมาประมาณ 1สัปดาห์ และระหว่างการมีประจำเดือน หากได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่ถูกต้องในช่วงเวลาที่เหมาะสม ก็คงช่วยให้อาการปวดประจำเดือนลดลงได้ไม่ยาก

 

6. สมุนไพรก็ช่วยได้

หลากหลายสมุนไพร ไม่ว่าจะเป็น อีฟนิ่งพรีมโรส, ดอกคาร์โมไมล์, เซนต์จอห์นเวิร์ต, ตังกุย, แบล็คโคโฮส เป็นต้น ล้วนมีสรรพคุณในการต้านอาการปวดท้องประจำเดือนได้ทั้งนั้น หากคุณได้ลองน่าจะช่วยให้ฝันร้ายนี้ครั้งนี้จางหายไปได้ไม่น้อย อย่างไรก็ตาม ก่อนจะเลือกรับประทานสมุนไพรชนิดใดชนิดหนึ่ง ควรจะต้องศึกษาข้อมูลรายละเอียดให้รอบคอบเสียก่อนด้วย เพราะบางอย่างที่ไม่ถูกกัน หากทานคู่กันไปแล้ว อาจจะทำให้เกิดผลเสียมากไปกว่าการปวดท้องก็เป็นได้

15.2

ภาพจาก : http://exercise.lovetoknow.com/about-physical-fitness/working-out-tips

7. ออกกำลังกายคลายปวด

การออกกำลังกายเป็นประจำ จะทำให้ระดับความเครียดและความเจ็บปวดในตัวคุณลดน้อยลงได้ เพราะการออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายหลั่งสารเอนดอร์ฟินหรือสารแห่งความสุขออกมา ซึ่งสารชนิดนี้มีผลต่อการช่วยลดความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในร่างกาย รวมไปถึงอาการปวดท้องประจำเดือนนี้ด้วย การออกกำลังกายเพื่อลดอาการปวดที่ดี ควรเริ่มต้นจากการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ แล้วตามด้วยการออกกำลังกายให้เหงื่อออกท่วมร่างกาย รับรองเลยว่าวิธีนี้จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

 

ลองไปปรับใช้กันดูนะคะ เพราะหากคุณสามารถทำได้ ก็คงไม่ต้องมาทนกับความปวดที่แสนทรมานนี้ต่อไปอีกแล้ว

[ads=center]

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: