“Hara hachi bu.” เคล็ดลับการกินอาหารแบบชาวญี่ปุ่น ที่กินยังไงก็ไม่อ้วน





เคยรู้สึกอิจฉาคนที่ผอม แต่สามารถทานอาหารอะไรก็ได้ตามใจปากไหมค่ะ ช่างเป็นชีวิตที่น่าอิจฉาเสียเหลือเกิน แต่ชีวิตของเราทุกคนไม่อาจจะเป็นอย่างนั้นไปได้เสียทั้งหมด แถมบางคนยังพ่วงโรคประจำตัวเข้าไปอีกหลายๆโรคด้วย ดังนั้น การพยายามดูแลตัวเองให้ดี โดยการรับประทานอาหารที่ถูกที่ควร จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรท่องจำให้ขึ้นใจ และนำไปปฏิบัติตามให้เคยชิน

13.1

ภาพจาก : http://www.crossfit-u.com/crossfit-u-wod/monday-250814/

หนึ่งในทฤษฎีการทานอาหารเพื่อสุขภาพที่จะขอกล่าวถึงในที่นี้ ก็คือ ทฤษฎีการรับประทานอาหาร “แบบเกือบอิ่ม” ตามแบบฉบับของชาวญี่ปุ่นแห่งเมืองโอกินาวา ซึ่งคนทั่วโลกต่างยกย่องให้เมืองนี้เป็นเมืองที่มีประชากรที่มีอายุยืนยาวมากที่สุดในโลก พวกเขาทานอาหารกันอย่างไร เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันเลยค่ะ

เคล็บลับการรับประทานอาหารของชาวเมืองโอกินาวา มีวัฒนธรรมที่เรียกว่า “ฮาราฮาชิบุ” หรือที่หมายความว่า การรับประทานอาหารเพียง 4 ใน 5 ส่วน หรือ 80% ของปริมาณพื้นที่ในท้องเท่านั้น หรือหากคิดเป็นปริมาณพลังงาน ก็จะอยู่ที่ราวๆ 1,800 กิโลแคลอรี่เท่านั้น ซึ่งการรับประทานในรูปแบบนี้ อาจจะทำให้ผู้บริโภคไม่รู้สึกอิ่มทันทีเมื่อทานอาหารเสร็จ แต่หลังจากรับประทานไปแล้วซักครู่ ร่างกายจะรู้สึกอิ่มตามมาเองภายหลัง ทั้งนี้ก็เป็นเหตุผลเนื่องมาจากธรรมชาติของมนุษย์ ที่เมื่อร่างกายได้รับประทานอาหารเข้าแล้ว อาหารที่รับเข้าไปจะต้องใช้เวลาในการย่อยและดูดซึมสักพักหนึ่ง ก่อนที่จะส่งสัญญาณกลับไปที่สมอง เพื่อสั่งการให้ร่างกายรู้สึกอิ่มเองโดยอัตโนมัติ ดังนั้น การรับประทานอาหารเพียงแค่ 4 ใน 5 จึงเป็นปริมาณที่พอเหมาะพอดี และไม่ส่งผลให้ร่างกายอิ่มจนเกินไปนั่นเอง

[ads]

การรับประทานอาหารแบบเกือบอิ่ม ถือเป็นวิธีที่เหมาะสมอย่างมากสำหรับคนที่กำลังอยากจะลดความอ้วน เพราะถึงแม้ว่าคุณจำเป็นต้องหยุดทานอาหารก่อนที่สมองจะส่งสัญญาณมาบอกว่าอิ่ม แต่นี้ก็เป็นวิธีการป้องกันไม่ให้คุณรับประทานอาหารอิ่มเกินไปในแต่ละมื้อ ร่างกายจึงได้รับสารอาหารต่างๆอย่างพอเหมาะพอควร และไม่มากจนเกินไป และเมื่อร่างกายสามารถเผาผลาญอาหารได้อย่างพอดิบพอดี ไม่เหลือใช้ ก็ย่อมไม่ทำให้เป็นก้อนไขมันที่สะสมอยู่ตามอวัยวะต่างๆของร่างกายได้ อีกทั้ง การรับประทานอาหารเกินคำว่าพอดี ยังอาจจะก่อให้เกิดเป็นไขมันที่สะสมอยู่ภายในหลอดเลือด ซึ่งการสะสมของก้อนไขมันที่มากขึ้นนี้ จะส่งผลให้หลอดเลือดมีขนาดเล็กลง ทำให้เลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆได้ไม่สะดวกอย่างที่เคยเป็น ส่งผลต่อเนื่องให้การทำงานของอวัยวะต่างๆเสื่อมถอยคุณภาพลงได้อย่างรวดเร็วและหากปล่อยไว้นานโดยขาดการดูแลเอาใจใส่ ก็จะส่งผลให้เกิดการอุดตันของไขมันในหลอดเลือด เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อหัวใจและสมอง หรือหากโชคร้ายคุณก็อาจจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นานเท่าไร

13.2

ภาพจาก : https://harahachibu.wordpress.com/

เหตุการณ์ร้ายๆจะไม่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ หากคุณเริ่มเอาอย่างชาวเมืองโอกินาวาแห่งประเทศญี่ปุ่น ที่เรียนรู้ที่จะรับประทานอาหารแบบพอเหมาะพอดี ขอเพียงแค่คุณเริ่มต้นควบคุมจิตใจของตัวเองให้ได้เสียก่อน และประเมินความสามารถของร่างกายของตัวเอง ว่าสามารถรับประทานอาหารได้มากน้อยเพียงใด เพื่อที่จะได้กำหนดปริมาณการรับประทานอาหารได้ถูก เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้เพื่อสุขภาพที่ดีในวันหน้านะคะ

[ads=center]

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: