ทำไมคนไทยต้องกิน ‘ข้าวไรซ์เบอร์รี่’ ข้าวกล้องเพื่อสุขภาพ





‘ข้าว’ กับ ‘คนไทย’ เป็นของคู่กัน ไม่ว่าจะหันมองไปทางไหน คนไทยก็ยังคงบริโภคข้าวเป็นอาหารหลักอยู่ดี แถมประเทศไทยยังเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวอันดับต้นๆของโลกอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ การบริโภคข้าวจึงได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทยไปเสียแล้ว และแม้จะมีอาหารฝรั่ง อาหารญี่ปุ่น หรืออาหารของชาติไหนๆเข้ามาในประเทศไทย แต่ข้าวก็ยังคงรับบทพระเอก ที่เป็นตัวชูโรงประจำประเทศชาติอยู่ดี ซึ่งข้าวที่คนไทยบริโภคนั้น ก็มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์มีเอกลักษณ์และความอร่อยที่แตกต่างกันออกไป วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับข้าวไทยอีกสายพันธุ์หนึ่ง นอกเหนือจากข้าวหอมมะลิ ที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์ขึ้นมาใหม่ รับรองได้เลยว่า “ทั้งอร่อย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ” อย่างแน่นอน

 [ads]

ข้าวที่เราจะพูดถึงวันนี้ มีชื่อว่า “ข้าวไรซ์เบอร์รี่” ซึ่งเป็นข้าวลูกผสมที่เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่าง ข้าวขาวดอกมะลิ 105’  ข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุดของประเทศไทย และ ข้าวเจ้าหอมนิล ข้าวสีดำที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ที่ดีต่อร่างกาย เมื่อข้าวสายพันธุ์ดีสองสายพันธุ์มาผสมกันจึงเกิดเป็นข้าวสายพันธุ์ที่ผสมผสานความดีงามของทั้งสองพันธุ์เอาไว้ การวิจัยครั้งนี้เป็นการปรับปรุงพันธุ์ของศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว ที่ได้รับความร่วมมือจากคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำให้ได้ออกมาเป็นข้าวไรซ์เบอร์รี่ อีกหนึ่งก้าวแห่งการพัฒนาของประเทศไทย

ข้าวไรซ์เบอร์รี่ จะมีลักษณะเมล็ดเป็นสีม่วงเข้ม รูปร่างเมล็ดเรียวยาว ผิวมันวาว และมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ เมื่อนำข้าวสารไรซ์เบอร์รี่มาหุง จะได้ออกมาเป็นข้าวกล้องที่มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มกว่าข้าวกล้องปกติทั่วไป มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และชวนให้น่ารับประทานมากกว่าการรับประทานข้าวกล้องโดยปกติทั่วไป ซึ่งหากคุณเป็นคนหนี่งที่ชอบรับประทานข้าวกล้องอยู่แล้ว คุณน่าจะต้องติดใจข้าวไรซ์เบอร์รี่นี้อย่างแน่นอน เพราะนอกจากรูปร่างหน้าตาที่น่ารับประทานแล้ว ข้าวไรซ์เบอร์รี่ยังเป็นข้าวสายพันธุ์ใหม่ที่มากไปด้วยคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ดังต่อไปนี้

ข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นพันธุ์ข้าวที่โดดเด่นในด้านของคุณค่าทางโภชนาการเป็นอย่างมาก โดยในส่วนของรำข้าวและน้ำมันรำข้าวจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ จะมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารสำคัญที่สำคัญในปริมาณสูงมาก ได้แก่ เบต้าแคโรทีน แกมมาโอไรซานอล วิตามินอี แทนนิน สังกะสี และโฟเลตสูง ทำให้การรับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่ มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อร่างกาย มีส่วนสำคัญในการช่วยบำรุงร่างกาย ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนที่ใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ช่วยลดการอักเสบที่ผิวหนัง ลดริ้วรอยแห่งวัย และชะลอความแก่ได้เป็นอย่างดี

6.1

ภาพจาก : http://www.xn--22c0bi1aj2d0c0abw6p.com/tag

คุณประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระไม่ได้ช่วยแต่เพียงการทำให้คุณดูอ่อนเยาว์เท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆได้อย่างมากมาย เช่น โรคสมองเสื่อม โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง และโรคมะเร็งได้อีกด้วย เนื่องจาก สารต้านอนุมูลอิสระที่ได้มาจากโพลิฟีนอล, แกมมา โอไรซานอล, แอนโทไซยานิน หรือเบต้าแคโรทีน ที่อยู่ภายในเมล็ดข้าวไรซ์เบอร์รี่ จะช่วยดักจับอนุมูลอิสระที่ร่างกายได้รับมาจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ทั้งในรูปของการรับประทานอาหารหรือการใช้ชีวิตในรูปแบบอื่นๆ ก่อนจะกำจัดมันออกไปจากร่างกายด้วยกระบวนการทางธรรมชาติ

นอกเหนือจากสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว ในข้าวไรซ์เบอร์รี่ยังคงสามารถพบสารอาหารอื่นๆอีกมากมายที่ล้วนมีส่วนในการปกป้องโรคได้อีกหลายชนิด เช่น ‘ธาตุเหล็ก’  ป้องกันโรคปากแหว่งเพดานโหว่ในทารก และป้องกันภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือ ‘โอเมก้า-3’ กรดไขมันจำเป็นที่สำคัญต่อโครงสร้างและการทำงานของสมอง ตับ หรือระบบประสาท เป็นต้น

ส่วนใครที่ยังกังวลว่าตัวเองนั้นเป็นโรคเบาหวาน จะสามารถรับประทานข้าวที่มีแป้งเป็นองค์ประกอบสูงได้หรือไม่ ก็อยากให้สบายใจได้เลยว่า ข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นข้าวที่มีค่าดัชนีน้ำตาลในระดับต่ำถึงปานกลาง ทำให้เมื่อผู้ป่วยโรคเบาหวานรับประทานข้าวชนิดนี้เข้าไป จะมีผลให้ร่างกายค่อยๆย่อยและดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายอย่างช้าๆ และไม่เป็นผลร้ายต่อการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดเหมือนกับการรับประทานข้าวที่ขัดสีแล้ว ซึ่งย่อมเป็นผลดีต่อผู้ป่วยโรคนี้มากกว่า

ข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมต่อคนในทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กเล็กที่กำลังเติบโต ผู้ใหญ่วัยคนทำงานที่ต้องการความอร่อย สตรีมีครรภ์ที่ต้องการสารอาหารไปเลี้ยงลูกในท้อง หรือผู้สูงวัยที่ต้องการรักษาสุขภาพ ก็สามารถรับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่ได้ทั้งนั้น หากได้ลองลิ้มชิมรสข้าวของคนไทยพันธุ์นี้แล้ว รับรองว่าต้องติดใจอย่างแน่นอน

[ads=center]

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: