เผยข้อมูลสิทธิ‘บัตรทอง’รักษามะเร็ง ไม่ด้อยกว่าข้าราชการ เทียบอังกฤษ-แคนาดา





 

แม้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ดูแลประชาชนไทยกว่า 48 ล้านคน จะดำเนินโครงการมาแล้วกว่า 10 ปี แต่หลายคนยังมีข้อสงสัยว่าระบบนี้จะมีมาตรฐานการรักษาเทียบเท่ากับระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ และระบบประกันสังคมหรือไม่ โดยเฉพาะกับโรคที่รักษายากๆ อย่างเช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ฯลฯ หรือจะเป็นเพียงระบบการรักษาแบบอนาถาเท่านั้น

แต่จากการได้พูดคุยกับแพทย์ในสถานพยาบาล ต่างมีความเห็นตรงกันว่า บัตรทองให้สิทธิรักษาพยาบาลแก่ประชาชนไม่ด้อยไปกว่าระบบหลักประกันสุขภาพอื่นๆ

ทั้งนี้ ศ.นพ.วิชาญ หล่อวิทยา ภาควิชารังสีรักษาและมะเร็งวิทยา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) กล่าวถึงสิทธิประโยชน์ของผู้ป่วยโรคมะเร็งในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ว่า สิทธิประโยชน์ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ใช้สิทธิบัตรทอง ถือว่ามีมาตรฐานและสามารถกล่าวได้ว่าใกล้เคียงกับต่างประเทศ โดยเฉพาะการรวมโรคมะเร็งที่มีอยู่หลายชนิดเข้ามาอยู่ในการให้สิทธิบัตรทอง ซึ่งทำให้ผู้ป่วยมะเร็งที่ใช้สิทธิบัตรทองเกือบ 100% เข้าถึงการรักษา

ศ.นพ.วิชาญกล่าวว่า ในกลไกของประเทศไทย มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาทำงานเพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้ป่วยที่ใช้สิทธิบัตรทองอยู่ จึงทำให้การรักษาโรคมะเร็งมีมาตรฐานที่ดี และดีมากเมื่อเทียบเคียงกับประเทศใกล้เคียงหรือประเทศเพื่อนบ้าน

“สปสช.จะแยกโรคมะเร็งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1.โรคมะเร็งที่พบมากหรือพบบ่อย ซึ่งกลุ่มนี้จะมีการออกแบบมาตรฐานการรักษา (Protocol) ขึ้นมาเพื่อกำหนดแนวทางการรักษาและวิธีการเบิกจ่ายรวมทั้งการใช้ยา ซึ่งผู้ป่วยในมะเร็งกลุ่มนี้จะค่อนข้างได้รับสิทธิประโยชน์ครบถ้วนตามที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญออกแบบไว้ 2.มะเร็งที่พบไม่บ่อย ซึ่งแม้ว่าจะไม่มีการออกแบบมาตรฐานการรักษา แต่ผู้ป่วยก็ยัง มีสิทธิได้รับการรักษาตามที่แพทย์ผู้รักษาเห็นสมควร

ยกตัวอย่างมะเร็งปากมดลูก ซึ่งผู้ป่วยโดยทั่วไปจะได้รับการรักษา หากป่วยระยะแรกๆ ก็จะได้รับการผ่าตัด แต่ถ้าป่วยระยะมากขึ้นก็มีสิทธิได้รับรังสีรักษา ยาเคมีบำบัด สามารถพูดได้เลยว่าครบทุกอย่างเช่นเดียวกับต่างประเทศ จึงกล่าวได้ว่าประเทศไทยรักษาใกล้เคียงกับประเทศอังกฤษ และแคนาดา ที่มีลักษณะการให้สิทธิการรักษาคล้ายคลึงกับเรา” ศ.นพ.วิชาญกล่าว

นอกจากนี้ ศ.นพ.วิชาญกล่าวอีกว่า เมื่อไม่นานมานี้ีโอกาสได้เห็นการดีเบตเรื่องนโยบายโอบามาแคร์และทรัมป์แคร์ ซึ่งก็มีการยกตัวอย่างบัตรทองของประเทศไทยขึ้นในเวทีด้วย ซึ่งน่าสนใจว่ามาตรฐานของประเทศไทยดีพอสมควรจนต่างประเทศมีการนำไปยกเป็นตัวอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ นั่นเพราะแม้ว่าประเทศเหล่านั้นจะรวยกว่าไทย และให้สิทธิประโยชน์สูงกว่าเล็กน้อย แต่ยืนยันว่ามาตรฐานของประเทศไทยไม่ด้อยไปกว่าหลายๆ ประเทศในโลกนี้

“ในส่วนของกระแสข่าวที่จะมีการจำกัดการรักษาโรคมะเร็งนั้น คงไม่จริง เพราะโรคมะเร็งนอกจากจะไม่จำกัดแล้วยังจะขยายเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งจะทำให้การรักษาดีขึ้นจากเดิม ทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกคนที่ สปสช.ขอให้ช่วยเรื่องนี้คงไม่ยอมแน่ๆ หากจะมีการจำกัด เพราะเรายึดหลักการว่าต้องการรักษาโรคมะเร็งให้มีมาตรฐานที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้” ศ.นพ.วิชาญกล่าว

ขณะที่ นพ.กสานติ์ สีตลารมณ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แผนกมะเร็งวิทยา กองอายุรกรรม โรงพยาบาล (รพ.) พระมงกุฎเกล้า กล่าวถึงสิทธิประโยชน์ของผู้ป่วยมะเร็งที่ใช้สิทธิบัตรทองว่า ยารักษาโรคมะเร็งที่ สปสช.จ่ายให้ตามมาตรฐานการรักษานั้นเป็นยาที่ดี มีมาตรฐาน มีประสิทธิภาพ และที่ผ่านมา ก็ใช้ยาชนิดเดียวกันนี้จ่ายให้กับผู้ป่วยในกลุ่มสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ และผู้ป่วยที่จ่ายค่ารักษาพยาบาลเองอยู่แล้ว

“ผมเชื่อว่าผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยามะเร็งตามมาตรฐานการรักษา ที่ สปสช.จัดหาให้นั้น จะได้การรักษาที่มีคุณภาพ และข้อดีก็คือ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของคนไข้และครอบครัวได้” นพ.กสานติ์กล่าว และว่า ต้องยอมรับว่าคงไม่สามารถเขียนมาตรฐานการรักษาให้ครอบคลุมทุกประเภทของโรคมะเร็งได้ แต่ปัจจุบันจะมีครอบคลุมในมะเร็งสำคัญที่คนส่วนใหญ่ป่วย ส่วนตัวรู้สึกพอใจค่อนข้างมาก เพราะแต่ละปีก็มีการเขียนมาตรฐานการรักษาใหม่ๆ ขึ้นมา มีการบรรจุยาใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมา

นพ.กสานติ์กล่าวต่อไปว่า ยิ่งมีมาตรฐานการรักษามากขึ้น แพทย์ก็ยิ่งจะสะดวกและมีความชัดเจนในการรักษามากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าแพทย์ก็จะยอมรับข้อจำกัดแต่ละมาตรฐานการรักษา เพราะคงไม่สามารถเบิกค่ายาราคาแพงได้ทุกตัว แต่ยืนยันว่าจะทำให้การรักษามีคุณภาพมากขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ในอนาคตคาดหวังว่าหากในรัฐบาลสามารถผลักดันให้มียาเข้ามาบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติเพิ่มมากขึ้น ก็จะยิ่งทำให้สามารถรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะส่วนตัวเชื่อว่าระบบบัตรทองให้สิทธิประโยชน์ด้านมะเร็งอยู่ในระดับแนวหน้า และนับเป็นผู้บุกเบิก โดยให้สิทธิมากกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างแน่นอน

ต้องบอกว่าผู้ป่วยที่รักษามะเร็งในสิทธิบัตรทองจะได้รับการรักษาและได้รับยาเทียบเท่ากับผู้ป่วยที่จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลด้วยตัวเอง ไม่ได้ด้อยไปกว่าแต่อย่างใด นี่เป็นคำกล่าวยืนยันจากส่วนหนึ่งของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งที่ให้การดูแลกลุ่มผู้ป่วยในสิทธิบัตรทอง

ขอบคุณข้อมูลจาก : มติชนออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: