ชัดเจน! กัปตันเครื่องบินตอบคำถาม4ข้อ หลังเจอกระแสโซเชียล’รักชีวิต อย่าขึ้น Lion Air’





 

กัปตันเครื่องบินตอบคำถาม 4 ข้อ หลังโซเชียลซัด รักชีวิต อย่าขึ้น Lion Air ชี้ อย่าเหมารวม ไม่มีใครอยากให้เกิด

จากกรณีที่มีคนโพสต์โวยสายการบิน Thai Lion Air หลังจากที่มีปัญหาเรื่องอากาศ แอร์ไม่ทำงาน จนมีหน้ากากออกซิเจนห้อยมา แต่ใช้งานไม่ได้นั้น (อ่านย้อนหลัง : เกือบหูดับ! 'ไทยไลอ้อนแอร์'เครื่องบินชำรุด-หน้ากากไร้ออกซิเจน ไล่ให้ไปต่อแถมไม่คืนเงิน! )

ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2560 เฟซบุ๊ก Akasit Doungmaln กัปตันของสายการบินดังกล่าว ได้มีการโพสต์ชี้แจงเรื่องนี้ ทั้งหมด 4 ข้อ ดังนี้

         ออกตัวก่อนนะครับว่า

         เอฟไม่ได้เป็นกัปตันในเที่ยวบิน

         เอฟไม่มีข้อมูลว่าเกิดอะไรขึ้นในเที่ยวบินบ้าง

         เอฟแค่ตอบคำถามที่ท่านผู้โดยสารสงสัย

         ให้กระจ่าง ชัดเจน ด้วยหลักการปฏิบัติที่ถูกต้อง

         เท่านั้นครับ

         เปลี่ยนคำขึ้นต้นเถอะครับ

         "รักชีวิตอย่าคิดขึ้น Thai Lion Air"
         
         ไม่มีใครอยากให้เกิด หรือตั้งใจให้เกิด

         เหตุการณ์แบบนี้หรอกครับ 

         อย่าเหมารวมเลยครับ ว่ากันเป็นเหตุการณ์

         เหตุการณ์ไป แล้วหาทางป้องกัน

         ไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก

         น่าจะดีกว่าครับ

         ขอตอบเป็นข้อ ๆ เลยแล้วกันนะครับ

1. ระบบ Scan กระเป๋า หรือการ Scan 

         กระเป๋านั้น เป็นขั้นตอนการปฏิบัติของทางสนามบินนั้น ๆ ครับ ทางสายการการบินเป็นแค่ผู้รับคำสั่งให้ปฏิบัติตาม อย่างเหตุการณ์นี้ ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง มีขั้นตอนการปฏิบัติ คือ เมื่อท่านผู้โดยสารโหลดกระเป๋ากับทางสายการบินเรียบร้อย ทางสายการบินจะส่งกระเป๋าใบนั้นเข้าเครื่อง Scan ของทางท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งเป็นหน้าที่ของท่านผู้โดยสารที่จะต้องไปยืนดูว่ากระเป๋าของท่านผ่านการตรวจสอบเรียบร้อยดีมั้ย เพราะถ้ามีอะไรผิดปกติ ท่านต้องเปิดกระเป๋าของท่านให้เจ้าหน้าที่ของทางการท่าอากาศยานดอนเมืองดูเดี๋ยวนั้น แต่ถ้าท่านไม่อยู่ดูกระเป๋าของตัวท่านเอง แล้วเดินเข้าไปด้านในเลยทันที เมื่อเครื่อง Scan ตรวจพบสิ่งผิดปกติ ทางเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานดอนเมืองก็จะแจ้งให้ทางสายการบินไปตามท่านเจ้าของกระเป๋ามาเปิดกระเป๋าของตัวท่านเอง อย่างที่ท่านว่าครับ

2. เมื่อเครื่องบินวิ่งขึ้นแล้วเกิดปัญหา

         – ก่อนวิ่งขึ้นแล้วรู้สึกร้อน มีได้หลายสาเหตุ เช่น เครื่องบินจอดอยู่กลางลานจอดซึ่งเป็นบริเวณที่แดดแรงจัด เครื่องทำความเย็นก็อาจจะสู้ไม่ไหว หรือ ระบบทำความเย็นของเครื่องบินมีปัญหา แต่รับรองได้ว่าปัญหานั้นจะไม่มีผลกระทบกับความปลอดภัย นักบินถึงรับเครื่องบินลำนั้น ๆ มาบินครับ

         – หลังจากวิ่งขึ้นแล้วหน้ากากออกซิเจนตกลงมา นั่นหมายความว่า เครื่องบินมีปัญหาเรื่องความดันอากาศ (Decompression) ซึ่งระบบจะปล่อยหน้ากากออกซิเจนให้ตกลงมาอัตโนมัติ และก่อนสวมหน้ากากออกซิเจน ให้ท่านผู้โดยสารกระตุกตัวหน้ากากก่อน เพื่อให้ระบบผลิตออกซิเจนได้เริ่มทำงาน ตัวหน้ากากจะมีออกซิเจนครับ #น่าจะไม่ได้กระตุกหน้ากากก่อนสวม

         – ผมเป็นนักบินมา 10 กว่าปี ก็ยังไม่เคยเจอกับตัวเองเหมือนกันครับ เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นครับ

3. เวลาเกิดเหตุการณ์ผิดปกติบนเครื่องบิน พนักงานทุกคนบนเครื่องถูกฝึกมาให้ดูแลชีวิตท่านผู้โดยสารได้อย่างแน่นอนครับ

         – ที่กัปตันไม่ได้ประกาศในทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ เพราะ นักบินต้องแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวเครื่องบินให้อยู่ในการควบคุมของนักบินให้ได้ก่อนครับ อย่างอื่นถึงตามมา มีโมเดล 5Cs อยู่ครับ

1. Cockpit/Flight crew members

         – นักบินคุยกันก่อนว่าเกิดอะไร จะแก้ไขอย่างไร

2. Controller/ATC

         – นักบินแจ้งหอบังคับการบินว่าต้องการอะไร

3. Cabin crew

         – นักบินแจ้งลูกเรือว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป

4. Customer/Passenger

         – นักบินแจ้งผู้โดยสารว่าเกิดอะไร และเราจะทำอย่างไรต่อ 

5. Company
 
         – สุดท้ายถึงพยายามติดต่อบอกปัญหาที่เกิดขึ้นกับทางสายการบิน เพื่อให้เตรียมรับ เตรียมแก้ไขสถานการณ์ต่อไป

         ทุกอย่างทำเรียงไปตามลำดับ เพื่อให้ได้ความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งก็เป็นลำดับตามที่ท่านผู้โดยสารว่าไว้เลยครับ

4. ไร้ความช่วยเหลือ

         อย่างที่ว่าไว้ครับ เรื่อง 5Cs ครับ ทางสายการบินจะทราบปัญหาที่เกิดหลังสุด ปกติทางสายการบินจะมีแผนการรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินไว้อยู่แล้วครับ ต้องถามว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน นักบินใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที นำเครื่องลงจอดได้อย่างปลอดภัย ต้องให้เวลาพนักงานภาคพื้นของสายบินได้ปฏิบัติตามแผนการฉุกเฉินที่วางไว้บ้างครับ เข้าใจครับว่า ทันทีหลังจากเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ ท่านผู้โดยสารก็ต้องตกใจเป็นเรื่องปกติ ใจเย็นลงนิดหนึ่งนะครับ

         เราพร้อมที่จะนำท่านผู้โดยไปยังจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย แต่อาจจะเสียเวลาจากเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น เราเลยไม่สามารถคืนเป็นเงิน (Full Refund) ให้ท่านผู้โดยสารได้ เว้นเสียแต่ เราให้บริการนำท่านไปยังจุดหมายปลายทางไม่ได้เลย นั่นก็อีกเรื่องนึงครับ

         จากเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นนั้น เครื่องบินไม่สามารถควบคุมการปรับแรงดันอากาศได้อย่างเหมาะสม (Decompression) การที่ท่านผู้โดยสารจะรู้สึกปวดหูมากนั้น มีโอกาสเกิดขึ้นได้แน่นอนครับ เพราะร่างกายปรับสมดุลของแรงดันไม่ทัน

         ส่วนการที่จะขอไม่เดินทางและการไปหาหมอนั้น ต้องมาดูว่า ได้ซื้อประกันการเดินทางมาด้วยรึเปล่าครับ เพราะสายการบินราคาประหยัดจะแยกค่าประกันการเดินทางออกจากค่าบัตรโดยสาร เพื่อให้ได้ราคาบัตรโดยสารที่ถูกที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่เหมือนสายการบินที่บริการแบบเต็มรูปแบบ (Premium Airline) ที่จะรวมค่าประกันการเดินทางไว้ในค่าบัตรโดยสารเรียบร้อยแล้วครับ

         ถ้าท่านผู้โดยสารได้รับการบาดเจ็บจากเหตุการณ์ไม่ปกติของเที่ยวบินและท่านผู้โดยสารซื้อประกันการเดินทางไว้ด้วย ทางสายการบินต้องดูแลทุกอย่างแน่นอนครับ

         แต่ถ้าแค่บอกว่าไม่อยากเดินทางด้วยแล้ว ขอเงินคืนเต็มจำนวน อันนี้น่าจะไม่ได้ครับผม

         ขอขอบคุณ ตรง "ฝากไว้ในใจครับ" 

         ในช่วงท้ายของข้อความท่านผู้โดยสาร

         เจ้าของข้อความที่เอฟนำมาเผยแพร่

         อ่านแล้วโดนใจ ชอบมาก ๆ เลยครับผม

         สุดท้ายแล้ว ยังไงก็ต้องขอโทษ

         ขออภัยกับเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น

         มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

         ขอบคุณครับ (ที่อ่านมาถึงตรงนี้)

         กัปตัน เอกสิทธิ์ ดวงมาลย์

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jatattaya Kittibunthon
ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Akasit Doungmaln

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: