กระทรวงแรงงาน – กระทรวงกลาโหม – รพ.ทหารผ่านศึก ร่วมจับมือลงนามให้ผู้ประกันตนใช้สิทธิทันตกรรมที่สถานพยาบาลเหล่านี้โดยไม่ต้องสำรองจ่ายเงินก่อน โดยเริ่มใช้ 1 ก.ค. 60 ทั่วประเทศ
การจับมือร่วมกันบูรณาการให้บริการทางการแพทย์กรณีทันตกรรมแก่ผู้ประกันตนครั้งนี้ กำหนดให้ไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน โดยเพิ่มสถานพยาบาลของรัฐ กว่า 19,000 แห่ง รองรับการให้บริการแก่ผู้ประกันตน ให้สอดรับกับ Thailand 4.0 ที่มุ่งเน้นให้ทุกหน่วยงานรัฐนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ให้บริการ เพื่อสร้างประโยชน์-คืนความสุขให้ประชาชน
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 60 นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า
“ตามที่สำนักงานประกันสังคมเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีทันตกรรมให้ผู้ประกันตน (อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน ผ่าฟันคุด) ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น แต่ไม่เกิน 900 บาทต่อรายต่อปี โดยไม่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้า ในสถานพยาบาลที่ทำความตกลงกับสำนักงานประกันสังคมนั้น ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 จนถึงขณะนี้ มีสถานพยาบาลเอกชน และคลินิกทันตกรรม ทำความตกลงกับสำนักงานประกันสังคมแล้ว 841 แห่งทั่วประเทศ
ซึ่งผู้ประกันตนสามารถสังเกตป้ายสติกเกอร์ที่ระบุ “สถานพยาบาลแห่งนี้ให้บริการผู้ประกันตนกรณีทันตกรรม ทำฟัน ไม่ต้องสำรองจ่าย” เพื่อเข้ารับบริการได้ทันที”
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงาน ยังได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือการให้บริการทางการแพทย์ กรณีทันตกรรมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม และโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ซึ่งมีผลให้ผู้ประกันตนสามารถใช้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2560 จึงมีสถานพยาบาลทั้งภาครัฐ และเอกชน ที่พร้อมให้บริการกรณีทันตกรรมแก่ผู้ประกันตนโดยไม่ต้องสำรองจ่าย ครอบคลุมพื้นที่ทุกอำเภอทั่วประเทศ และในอนาคตจะมีสถานพยาบาลเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการเข้ารับบริการกรณีทันตกรรม ผู้ประกันตนสามารถทำได้โดยวิธีการ ดังนี้
1. สังเกตสถานที่ให้บริการ ผู้ประกันตนสามารถสังเกตสถานที่ที่ให้บริการทันตกรรมโดยไม่ต้องสำรองจ่ายก่อนได้จากป้ายสติกเกอร์ที่ระบุ “สถานพยาบาลแห่งนี้ให้บริการผู้ประกันตนกรณีทันตกรรม ทำฟัน ไม่ต้องสำรองจ่าย”
2. แสดงบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อให้สถานพยาบาลตรวจสอบสิทธิ โดยจะเป็นการตรวจสอบสิทธิผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม ซึ่งต้องทำก่อนการให้บริการทันตกรรม
3. เข้ารับบริการ หากมีสิทธิ สามารถเข้ารับการบริการได้ทันที ในวงเงิน 900 บาทต่อปี โดยไม่ต้องสำรองเงินจ่ายก่อน
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวด้วยว่า การบูรณาการความร่วมมือ ระหว่างกระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม และโรงพยาบาลทหารผ่านศึก แสดงให้เห็นถึงความพร้อม และเจตจำนงในการพัฒนาระบบการให้บริการทางการแพทย์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกันตน ตามนโยบายของ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน และสอดรับนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นให้ทุกหน่วยราชการนำเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ให้บริการกับประชาชน
การทำเช่นนี้จะช่วยลดขั้นตอน ระยะเวลา และค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ ยังป้องกันการทุจริต ป้องกันการเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ อีกทั้งยังสนองนโยบาย Zero Corruption เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมและขับเคลื่อนไปสู่ Thailand 4.0. ด้วย
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก thairath.co.th
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ