ประวัติ “พระพุทธนรสีห์”ในพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร





๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๘.๐๐ น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลถวาย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ณ พระลานพระราชวังดุสิต

[ads]

ในการนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระพุทธนรสีห์ จากพระที่นั่งอัมพรสถาน โดยพระราชยานในริ้วขบวนตามโบราณราชประเพณี เพื่อมาประดิษฐานให้ประชาชนได้สักการะและร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ มีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นประธานสงฆ์ พร้อมด้วยพระสงฆ์ ๑๗๕ รูป ร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์

ประวัติ"พระพุทธนรสีห์"

   สืบเนื่องจากเมื่อครั้งสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงดำรงตำแหน่งเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย เสด็จไปตรวจราชการเมืองเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๑ เสด็จไปที่วัดพระสิงห์ เมืองเชียงใหม่ ทอดพระเนตรเห็นพระพุทธรูปขัดสมาธิเพชรแบบเชียงแสนองค์หนึ่ง ตั้งไว้บนฐานชุกชีในพระวิหารหลวงวัดพระสิงห์ มีลักษณะงาม จึงตรัสขอเจ้าอินทรวโรรสสุริยวงศ์ อัญเชิญลงมาไว้สำหรับทรงสักการบูชาในท้องพระโรงวังที่ประทับในกรุงเทพฯ

   ครั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงสร้างวัดเบญจมบพิตร มีพระราชประสงค์จะใคร่ได้พระพุทธรูปโบราณที่มีลักษณะงาม สำหรับตั้งในศาลาการเปรียญ ซึ่งกะว่าจะทรงสร้างใหม่ มีพระราชดำรัสสั่งให้สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสืบหา สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพจึงกราบทูลถึงพระพุทธรูปที่ได้ทรงเชิญมาจากเมืองเชียงใหม่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปที่วัง ได้ทอดพระเนตรเห็นพระพุทธรูปองค์นี้ก็ตรัสว่า “พระองค์นี้งาม แปลกจริงๆ” และจึงโปรดเกล้าฯ ให้แห่อัญเชิญพระพุทธรูปไปที่พลับพลาในพระราชวังดุสิต แล้วถวายพระนามว่า “พระพุทธนรสีห์”

   เมื่อสร้างพระอุโบสถ (ชั่วคราว) ที่วัดเบญจมบพิตรแล้วเสร็จในปีต่อมา จึงอัญเชิญพระพุทธนรสีห์ไปเป็นพระประธาน “ทรงพระราชดำริว่า พระพุทธนรสีห์ เป็นพระพุทธรูปอันมีพระพุทธลักษณะงามยิ่งนัก จะหาเสมอเหมือนได้โดยยาก” ต่อมาเมื่อสร้างพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรแล้วเสร็จ จึงโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระพุทธชินราชจำลองมาเป็นพระประธานภายในพระอุโบสถ

ส่วนพระพุทธนรสีห์นั้นโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญไป ประดิษฐานบนชั้นที่ ๓ ของพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต อันเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ และประดิษฐานสืบมาจวบจนทุกวันนี้

[ข้อมูลจาก “ตำนานพระพุทธรูปสำคัญ” พระนิพนธ์ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และหนังสือ “ลักษณ์ไทย เล่ม ๑: พระพุทธปฏิมา อัตลักษณ์พุทธศิลป์ไทย” โดย รศ. ดร. พิริยะ ไกรฤกษ์],[Online]www.silpa-mag.com

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: